Articles makeup
ความงาม

ยิ้มสวยนะ แต่ฟันเหลือง! รวม 8 วิธี 'ฟอกฟันขาว' มีรอยยิ้มสดใส มั่นใจ ไม่ต้องพึ่งวีเนียร์ ♡

ดื่มชากาแฟเยอะไปหน่อย รู้ตัวอีกทีฟันเหลืองทั้งปาก ไม่กล้ายิ้มให้ใครเห็นเลยจ้า! แต่ค่าทำวีเนียร์ก็แพ๊งแพงทำไงดี? งั้นมาดูทริคดีๆ ไม่แพงในบทความนี้กันเลย


» » » - - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 1. ขัดฟันด้วยเบกกิ้งโซดา และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

    • 2. แปรงฟันบ่อยๆ และต้องแปรงให้ถูกวิธีด้วยนะ!

    • 3. เปลี่ยนแปรงธรรมดา ไปลงทุนกับ 'แปรงสีฟันไฟฟ้า' ดีกว่า!

    • 4. ใช้ยาสีฟันสูตร 'ไวท์เทนนิ่ง' ให้ฟันขาวโดยเฉพาะ

    • 5. หลังแปรงฟันเสร็จ ควรใช้ 'น้ำยาบ้วนปาก' ด้วย!

    • 6. พกแปรงสีฟันใส่กระเป๋า ไว้แปรงระหว่างวัน

    • 7. เลี่ยงอาหาร / เครื่องดื่ม ที่สามารถ 'ติดสี' บนฟันได้!

    • 8. ทาลิปสติกสีแดงที่ 'อันเดอร์โทนน้ำเงิน (blue-based)' ขับฟันขาวได้!


    สวัสดีค่าาา สาวๆ SistaCafe ที่น่ารักทุกคน \(^▽^)/

    อยากเป็นผู้หญิงน่ารัก เสน่ห์ล้นเหลือ อย่างแรกที่เธอทำได้ง่ายๆ ทุกวัน ใครก็ต้องหลงรัก คงหนีไม่พ้น ' รอยยิ้ม ' แค่เธอยิ้มกว้างเห็นฟันเรียงครบทุกซี่ โลกก็ดูสว่างสดใสได้ในทันที และรอยยิ้มนี่แหละ เรียกหนุ่มๆ ได้นักต่อนัก แต่บางทีก็แอบมีอุปสรรค ยิ้มได้ไม่สุดเพราะฟันเหลือง! แหม ก็ไม่ใช่ทุกคนจะฟันขาวพร้อมโชว์ไง แต่จะให้เก็บเงินไปทำวีเนียร์ก็แพงเกิ๊นนน เลาะฟันออกยังง่ายกว่า อะ หรือจะต้องหุบฟันไปชั่วชีวิตดี??? #น้ำลายบูดก่อนแน่ๆ

    ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินแล้วค่ะ เพราะการมี ' ฟันขาว ' แบบธรรมชาตินั้นทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน แถมทำได้หลากหลายถึง 8 แบบ บทความนี้เรารวบรวมวิธีฟอกฟันขาวด้วยตัวเอง จากคำแนะนำของเหล่าหมอฟันชาวนิวยอร์กในนิตยสาร Allure ให้ฟันเหลือง ฟันมีคราบ กลับมาขาวใส พร้อมยิ้มได้อย่างมั่นใจได้อีกครั้ง ต้องใช้อะไร ทำยังไงบ้าง มาดู!  (´。• ω •。`) ♡

    1. ขัดฟันด้วยเบกกิ้งโซดา และไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

    วิธีแรก เอาแบบบ้านๆ ก่อนเลย คือใช้ผงเบกกิ้งโซดาขัดฟันค่ะ! ที่จริงจะใช้อย่างเดียวก็ได้ แต่เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ควรผสมกับ ' ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ ' ในอัตราส่วน 2:1 แล้วใช้แทนยาสีฟัน แปรงให้สะอาดเหมือนแปรงฟันทั่วไป ข้อดีคือราคาถูก ขัดได้บ่อย แต่อาจจะต้องใช้เวลานานนิดนึงกว่าฟันจะขาวใสนะคะ อดทนรอไปก่อนเนาะ!

    ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ใช้ได้อีกแบบ คือเอาเสื้อผ้าที่มีเนื้อหยาบๆ เป็นตุ่มๆ จุ่มลงไป แล้วใช้ปลายผ้าขัดฟันให้ครบทุกซี่ สารนี้จะช่วยขจัดคราบฟันให้จางลง ทำอย่างต่อเนื่องคราบจะค่อยๆ จางหายไป ทำควบคู่กับใช้น้ำยาบ้วนปากที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์แทน

     

    2. แปรงฟันบ่อยๆ และต้องแปรงให้ถูกวิธีด้วยนะ!

    ถ้าเธอ ( หรือแฟน / ที่ทำงาน ) ซีเรียสเรื่องมีฟันขาววิ้งวับ ต้องแปรงฟันบ่อยๆ ห้ามลืมเด็ดขาด! โดยใช้คู่กับยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่ง แม้จะไม่ได้ผลเร็วทันใจและขาวเวอร์วังเหมือนวีเนียร์ แต่ในยาสีฟันพวกนี้จะมีซิลิกา ซึ่งช่วยขัดคราบฟันให้จางลงได้! บางสูตรก็ผสมฟลูออไรด์ ซึ่งช่วยเคลือบฟัน ป้องกันฟันผุด้วยค่ะ

    ไม่ว่าเธอจะใช้แปรงสีฟันปกติหรือแบบไฟฟ้า ให้เลือก ' ขนแปรงแบบนุ่ม ' เข้าไว้! ขนแปรงแข็งๆ จะเหมือนกระดาษทรายที่ไปเสียดสีกับผิวฟัน นานไปผิวหน้าฟันจะเสีย พอมีคราบไปจับ จะแทบขัดไม่ออกเลยจะบอกให้! ไม่ควรแปรงฟันเร็วเกิน บางคนแปรงแค่ 2-3 วิ นั่นแทบจะไม่ได้ขจัดอะไรออกไปเลย! เราขอแนะนำให้ยืดเวลาให้นานขึ้น ค่อยๆ แปรงแบบตั้งใจมากขึ้น อย่างน้อย 2 นาทีต่อวัน ฟันจะขาวขึ้นจนรู้สึกได้เลยค่ะ

    3. เปลี่ยนแปรงธรรมดา ไปลงทุนกับ 'แปรงสีฟันไฟฟ้า' ดีกว่า!

    แม้สาวๆ หลายคนจะชินกับแปรงสีฟันธรรมดาแล้ว แต่ถ้าอยากฟันสะอาด ฟันขาวจริงจัง เราแนะนำให้มาลงทุนกับ ' แปรงสีฟันไฟฟ้า ' จะดีกว่า! เพราะแปรงไฟฟ้าจะช่วยขจัดคราบพลัคที่อยู่ซอกลึกๆ แบบที่แปรงธรรมดาเข้าไม่ถึง ช่วยกระตุ้นเหงือก และมีตั้งเวลาแต่ละเซ็ต เพื่อไม่ให้เธอแปรงฟันนานจนเกินไปค่ะ

    แปรงสีฟันไฟฟ้าเองก็มีหลายราคา ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหลายพัน ถ้างบน้อยไม่พอลงทุนกับแปรงหลักพัน จะซื้อราคาไม่กี่ร้อยก็ได้ อย่างน้อยก็ได้ผลกว่าแปรงธรรมดา ขอให้เป็นไฟฟ้าเถอะ เพราะมันจะมีระบบสั่น ช่วยขจัดคราบสกปรกได้มากกว่าแปรงปกติแน่นอน

    4. ใช้ยาสีฟันสูตร 'ไวท์เทนนิ่ง' ให้ฟันขาวโดยเฉพาะ

    อยากฟันขาวสวยราคาประหยัด อีกสิ่งที่ต้องลงทุนคือ ' ยาสีฟันสูตรไวท์เทนนิ่ง ' ค่ะ! แม้จะไม่สามารถเสกความขาวได้ชั่วข้ามคืน แต่ก็ขจัดคราบเหลืองได้มากกว่าสูตรทั่วไปแน่นอน เพราะมีแร่ธาตุ มีซิลิกาช่วยขจัดสิ่งสกปรก ซึ่งยาสีฟันไวท์เทนนิ่งก็มีหลายแบบ ทั้งของไทย ฝรั่ง ญี่ปุ่น สามารถเลือกได้ตามชอบเลย

    ยาสีฟันที่ดี จะต้องมีส่วนผสมทั้ง 3 อย่าง คือ โซเดียม โพลีฟอสเฟต ลดและป้องกันคราบเหลือง, ไฮดรอกซีอะพาไทด์ เคลือบฟันให้สวยเงางาม, ฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ และเราขอเตือนว่า อย่าเลือกยี่ห้อที่มีส่วนผสม SLS หรือสารลดแรงตึงผิวเยอะเกินไป เพราะฟองจะเยอะ ยิ่งกัดกร่อนผิวหน้าฟันให้เสียหาย เผลอๆ คราบเหลืองแน่นกว่าเดิมจ้า เลือกที่ผสมสารพอดีๆ แต่แปรงให้นานมากพอที่จะขจัดคราบได้หมด ( 1-2 นาที ) ก็พอ

     

    5. หลังแปรงฟันเสร็จ ควรใช้ 'น้ำยาบ้วนปาก' ด้วย!

    สาวๆ หลายคนคิดว่าแปรงฟันก็พอแล้ว ไม่เห็นต้องทำอย่างอื่น แต่ที่จริง ' น้ำยาบ้วนปาก ' ก็เป็นขั้นตอนที่สำคัญ ถ้าอยากฟันขาวสวย! โดยปกติจะใช้หลังแปรงฟัน และก่อนใช้ไหมขัดฟัน ทุกยี่ห้อจะผสมฟลูออไรด์ ขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่น เอาไม่ออกจากการแปรงเพียงอย่างเดียวได้ดี แถมลมหายใจหอมสดชื่นอีกด้วยน้า

    แนะนำว่าเมื่อใช้น้ำยาบ้วนปากแล้ว ให้รออย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนดื่ม หรือกินอาหารอื่นๆ เพื่อให้สารในน้ำยาทำงานได้เต็มที่ ( แอบกระซิบว่า น้ำยาที่มีส่วนผสมของไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ จะทำให้ฟันขาวชัดเจนขึ้น ถ้าเธอกลั้วปาก 2 ครั้งต่อวัน ติดต่อกันเป็นเวลาสามเดือน ) และไม่ควรใช้สูตรที่ผสมแอลกอฮอล์ เพราะหลังกลั้วปากเสร็จ แอลกอฮอล์ระเหยในปากแล้ว จะมีคราบเป็นด่างๆ ดวงๆ ที่ฟันได้ค่ะ

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดความงาม)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe