บอกต่อวิธีดูแลดวงตาในยุคดิจิตอล แบบ ii Care : MEGA WE CARE

เมื่อเราเข้าสู่ยุคดิจิตัลกันแล้ว แน่นอนว่าทุกอย่างก็ต้องเป็นเทคโนโลยี
มีทั้ง คอมพิวเตอร์ แท็บเลต สมาร์ทโฟน หรือแม้แต่กระทั่งแผ่นป้ายโฆษณา
ก็ยังเป็นภาพเคลื่อนไหว มีแสง
แล้วเพื่อนๆรู้มั้ยคะ ว่าแสงพวกนี้ส่งผลอะไรกับสายตาเราบ้าง
ไปอ่านกันเลยค่า

อย่างที่เกลบอกไปว่าในแต่ละวันที่ต้องเทคโนโลยีมากมาย
การมองเห็นผ่านดวงตาเรานั้น ได้รับการกระตุ้นทางสายตา ทั้งแสงแดด และแสงสีฟ้า ให้มีความเสื่อมสภาพไวกว่าปกติ อาจจะส่งผลทำให้เป็น โรคจอประสาทตาเสื่อม โรคต้อกระจก หรือสายตาสั้นลง เป็นต้นซึ่งการดูแลสายตาของเรานั้นเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากเลยนะคะ ที่เราต้องคิดถึง ><

ซึ่งปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้ดวงตานั้น เสื่อมไวกว่าปกติมีดังนี้
1. การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
2. แสงอุลตร้าไวโอเลตจากแสงแดด
3. ใช้สายตามากจากการทำงาน การเรียน และการอ่านหนังสือ
4. อายุที่เพิ่มขึ้น
5.การสูบบุหรี่ หรือทำงานบริเวณที่มีการสูบบุหรี่
6. ได้รับวิตามินหรือสารอาหารบางชนิดไม่เพียงพอ
เพื่อนๆจะเห็นว่าทุกอย่างอยู่รอบตัวเราหมดเลยจริงๆ

วันนี้เกลเลยอยากจะรีวิวอาหารเสริมตัวนึงที่สกัดมาจากธรรมชาติล้วนๆ
นั้นก็คือ i i Care : MEGA WE CARE ซึ่งได้ลองศึกษามาซักพักแล้วแหละ ว่าตัวนี้จะมีสารอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงเช่นการบริโภค ผัก ผลไม้หลากสี เค้าจะช่วยบำรุงดวงตาของเราและลดสารต่างๆที่จะมาทำลายเลนส์ตาค่ะ โดยจะมีทั้งหมด 3 ตัวหลักๆ ด้วยกัน คือ Lutein, Bilberry และ Beta-Carotene
นั้นก็คือ i i Care : MEGA WE CARE ซึ่งได้ลองศึกษามาซักพักแล้วแหละ ว่าตัวนี้จะมีสารอาหารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงเช่นการบริโภค ผัก ผลไม้หลากสี เค้าจะช่วยบำรุงดวงตาของเราและลดสารต่างๆที่จะมาทำลายเลนส์ตาค่ะ โดยจะมีทั้งหมด 3 ตัวหลักๆ ด้วยกัน คือ Lutein, Bilberry และ Beta-Carotene
ซึ่งประโยชน์ของการรับสารอาหารทั้งสามนั้นใรบรรจุอยู่ในเม็ดแคปซูลนี้แล้ว
เราจะไปดูกันค่ะว่า แต่ละตัวช่วยอะไรบ้าง มีผลดีต่อการบำรุงรักษาดวงตาอย่างไร
เราจะไปดูกันค่ะว่า แต่ละตัวช่วยอะไรบ้าง มีผลดีต่อการบำรุงรักษาดวงตาอย่างไร

สารอาหารตัวแรก Lutein (ลูทีน) เป็นสารอาหารธรรมชาติที่พบมากในตาบริเวณจุดรับภาพ และจอประสาทตา ทำหน้าที่ป้องกันรังสีจากแสงแดด ช่วยกรองแสงสีน้ำเงินที่ทำลายดวงตาและช่วยปกป้องเซลล์ของจอประสาทตา โดยจะไปลดสารอนุมูลอิสระ ที่ทำลายดวงตาของเราค่าร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับลูทีนจากสารอาหารประเภทผักสีเขียวเข้ม เช่น คะน้า ผักโขม ผักกาด ปวยเล้ง ซึ่งถ้าเราได้รับลูทีมเพียงพอในวันละ 6 มิลลิกรัม จะช่วยลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมได้ถึงร้อยละ 50 เลยทีเดียว

สารอาหารตัวที่สอง คือ Bilberry Extract ซึ่งจะเป็นสารกลุ่มไบโอฟลาโวนอยด์มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยป้องกันเลนส์ตา และสร้างความแข็งแรงให้กับคอลลาเจนซึ่งเป็นโครงสร้างของคอร์เนียที่อยู่ในตาและเส้นเลือดฝอนในดวงตาของเราอีกด้วย ทำให้เส้นเลือดฝอยนั้น ไม่เปราะแตกง่ายและป้องกันไม่ให้ตาขุ่นมัว อันเป็นสาเหตุของโรคต้อกระจกยังไม่หมดนะ เค้ายังช่วยให้เรามองเห็นในที่มืดหรือแสงสลัวๆ ได้ชัดเจนอีกด้วย

สารสกัดหลักตัวสุดท้ายคือ Beta-Carotene ซึ่งทุกคนจะรู้จักกันดีมากๆเพราะจะเจอในแครอท ฟักทอง โดยร่างกายเราจะเปลี่ยนเบต้าแคโรทีนเป็นวิตามินเอ จะช่วยในการมองเห็นในที่มืดป้องกันโรคตาบอดตอนกลางคืนและยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่บำรุงสายตาและป้องกันโรคหลายชนิด เช่น ต้อกระจก รวมถึงช่วยให้ผิวเยื่อเมือกในดวงตาชุ่มชื้นอีกด้วย

โดยประโยขน์จากการได้ทั้งสามตัวพร้อมกันคือ
1. ชะลอการเสื่อมของดวงตา
2.ลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อตา
3.เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอยในตา
4.ทำให้การมองเห็นในที่มืด ดีขึ้น
5.ป้องกันโรคจาประสาทตาเสื่อม
6.ป้องกันตาขุ่นมัว และต้อกระจก
7.ป้องกันเบาหวานขึ้นตา
8.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
เห็นมั้ยคะว่า ถ้าเราเลือกทานให้ถูกก็จะได้บำรุงดวงตาของเราให้เปล่งประกาย
ไม่เสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับดวงตาและสายตาด้วย
1. ชะลอการเสื่อมของดวงตา
2.ลดอาการเมื่อยล้ากล้ามเนื้อตา
3.เพิ่มความแข็งแรงของเส้นเลือดฝอยในตา
4.ทำให้การมองเห็นในที่มืด ดีขึ้น
5.ป้องกันโรคจาประสาทตาเสื่อม
6.ป้องกันตาขุ่นมัว และต้อกระจก
7.ป้องกันเบาหวานขึ้นตา
8.เพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา
เห็นมั้ยคะว่า ถ้าเราเลือกทานให้ถูกก็จะได้บำรุงดวงตาของเราให้เปล่งประกาย
ไม่เสี่ยงต่อโรคเกี่ยวกับดวงตาและสายตาด้วย

เป็นยังไงกันบ้างคะ ทีนี้สายตาเราก็พร้อมจะส่งประกาย ปิ๊งๆได้แล้ว
สำหรับวันนี้เกลก็ต้องขอตัวลาทุกคนไปก่อน พบกันใหม่รีวิวหน้านะคะ
สวัสดีค่าา กดเลิฟๆ ให้ด้วยน้าา
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe