Articles hair
ผม

ผมพัง ต้องบำรุงบัดเดี๋ยวนี้! 8 'ส่วนผสมธรรมชาติ' ซ่อมผมแห้งกรอบ ให้นุ่มสลวยสุดพลัง ♡

อยากซ่อมผมพัง ต้องไม่ลืมชื่อพวกเค้าเหล่านี้!!


» » - - - » - - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 1. สาหร่าย (Seaweed)

    • 2. โรสแมรี่ (Rosemary)

    • 3. โคลนและถ่านชาร์โคล (Clay and Charcoal)

    • 4. น้ำผึ้ง (Honey)

    • 5. น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

    • 6. น้ำมันทามานู (Tamanu Oil)

    • 7. น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil)

    • 8. น้ำมันมะกอก (Olive Oil)


    เซย์ไฮค่าา ซิสซี่ชาว SistaCafe สุดเลิฟทั้งหลายของเรา  (❤ω❤)

    เท่าที่ดูกระแสจากบทความก่อนๆ ของเรา รู้สึกว่าชาว follower ของเรา และสาวๆ ขาจรที่เข้ามาอ่าน จะชอบหัวข้อเกี่ยวกับการ ' บำรุงผม ' ให้สวย เงางาม นุ่มนิ่มเป็นพิเศษ วันนี้เราก็เลยจัดมาให้อีกบทความ!! โดยพยายามหาส่วนผสมที่คนส่วนใหญ่นึกไม่ถึง หรือไม่คิดว่ามันจะบำรุงผมได้ ( กลัวซ้ำกับคนอื่น ) และสุดท้ายก็เจอ นี่คือ ' 8 ส่วนผสมธรรมชาติ บำรุงผมให้นุ่มสลวย มีวอลลุ่ม ' จนราพันเซลต้องมาขอเคล็ดลับ บอกเลยต้องลอง ถ้าขยันหน่อยก็ไปซื้อมาหมักผมเอง หรือถ้าขี้เกียจ ก็แค่หาแชมพู / ครีมนวดที่มีส่วนผสมนั้นอยู่ก็พอเด้อ

    อะ ไม่พูดเยอะละ ไปดูกันว่าถ้าอยากผมสวย ผมพลิ้วเนี่ย มีอะไรช่วยได้บ้าง???

    1. สาหร่าย (Seaweed)

    เริ่มที่ส่วนผสมแรก ที่สาวๆ สายยุ่น สายเกา และสายแ_กต้องคุ้นเคยกันดี! กับ ' สาหร่าย ' ที่เราเห็นจนชินตาในอาหารญี่ปุ่น เกาหลีต่างๆ ซูชิเอย ซุปสาหร่ายเอย ในส่วนสกินแคร์ เธออาจเห็นชื่อนี้ผสมอยู่ในเซรั่ม หรือเอสเซนส์อยู่บ้าง แต่ถ้า ' แชมพู ' เนี่ย มันคงดูแปลกหน่อยๆ ใช่มั้ยล่ะ

    อันที่จริงแล้ว มีงานวิจัยเผยว่า ' สาหร่าย ' ช่วยคุมความมันบนหนังศีรษะได้นะคะซิส! และยังมีอีกงานวิจัยในวารสาร Archives of Plastic Surgery ตั้งข้อสันนิษฐานว่า สารสกัดสาหร่ายสองตัว (Saccharina japonica and Undaria pinnatifida) จะช่วยกระตุ้นฮอร์โมนเร่งผมยาวได้เร็วขึ้นภายในสองสัปดาห์เท่านั้น!! ถ้าเจอส่วนผสมนี้ในแชมพู หรือครีมนวดยี่ห้อไหน ให้ลองซื้อมาใช้ดูนะคะ

    2. โรสแมรี่ (Rosemary)

    สาวๆ หลายคนคงคุ้นชื่อ ' โรสแมรี่ ' เป็นผงสมุนไพรไว้โรยหน้า หรือผสมในอาหารอิตาเลียนต่างๆ แต่ไม่ค่อยมีใครรู้ว่า มันสามารถใช้บำรุงผมได้เช่นกันนะ! โรสแมรี่เป็นพืชที่โตง่าย เลี้ยงง่าย และเรายังเอาไปสกัดเป็นออยล์เพื่อนวดหนังศีรษะ จะช่วยลดผมร่วงได้อย่างดีเลยล่ะค่ะ

    นอกจากลดผมร่วงแล้ว ก็ยังช่วยเร่งผมยาวได้ โดยไม่มีผลข้างเคียงเช่นอาการคัน เธอจะซื้อยี่ห้อที่ผสมโรสแมรี่สกัดอยู่แล้ว ( ที่ราคาจะสูงหน่อย ) หรือจะหยดออยล์ 1-2 หยดใส่แชมพูที่ใช้ประจำก็ได้ ให้ผลพอๆ กัน ถ้ากำลังคันหัว ผมร่วงเป็นกำ ต้องลองใช้ดูสักครั้งแล้วล่ะน้า

    3. โคลนและถ่านชาร์โคล (Clay and Charcoal)

    สายกินคงเคยเห็นอาหาร ขนมหวาน ที่มีกระแสว่าทุกอย่างต้องทำเป็นชาร์โคล จนรู้สึกแขยงหน่อยๆ รู้สึกว่ามันสกปรก แต่เราอยากให้ลืมความคิดนี้ไปก่อน เพราะอย่างน้อยมันก็ทำให้ผมหนา! โดยเฉพาะการมิกซ์ชาร์โคล + โคลน ( clay ) ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพให้ผมมีวอลลุ่ม หนา ไม่ลีบแบนสุดๆ ไปเลย

    เพราะทั้งสองอย่างนี้ จะเพิ่มแรงเสียดทานของเส้นผมแต่ละเส้น จึงทำให้ผมมีน้ำหนักขึ้น มี texture มากขึ้น แต่ก็มีผลข้างเคียงอยู่บ้าง คือถ้าสูดดมไปนานๆ ปอดอาจจะเสียหายได้ จึงไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์แนวฝุ่นผง หรือสเปรย์ที่มีถ่านชาร์โคล แต่สามารถใช้แชมพู ( ที่เราไม่ได้สูดลมหายใจเข้าไป ) ได้ปกติค่ะ

    4. น้ำผึ้ง (Honey)

    ' น้ำผึ้ง ' นี่ก็รู้กันดีอยู่ละเนอะ ว่าช่วยบำรุงทั้งผิวหน้า ผิวกาย และเส้นผม หมักผมเพียวๆ ก็เริ่ด แชมพู/ ครีมนวดหลายยี่ห้อก็ผสมน้ำผึ้ง เนื่องจากคุณสมบัติที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นเส้นผมแห้งเสีย โดยไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะให้รำคาญใจนั่นเอง แค่นำน้ำผึ้งมาเจือจางในน้ำอุ่น แล้วนำมาหมักบนศีรษะ ก็เตรียมมีผมนุ่มๆ เหมือนนางแบบโฆษณาแชมพูได้เลย

    ใครคันหัว รังแคเยอะ เหมือนหิมะโปรยบนหัวตลอดเวลา ก็สามารถใช้วันเว้นวัน เพื่อแก้อาการหนังหัวลอก คัน หรือรักษาโรคหนังศีรษะอักเสบได้ด้วย เพียงหมักน้ำผึ้งต่อเนื่องเป็นเวลาสองสัปดาห์ค่ะ ( อ้างอิงจากงานวิจัยเผยแพร่ในวารสารการแพทย์ the European Journal of Medical Research )

    5. น้ำมันมะพร้าว (Coconut Oil)

    จริงๆ ถ้าอยากมีเส้นผมเงางาม จะใช้น้ำมันธรรมชาติอะไรหมักหัวก็ได้แหละ แต่ถ้าอยากได้ผลลัพธ์ไวๆ ก็ต้องใช้วัตถุดิบตัวท็อปอย่าง ' น้ำมันมะพร้าว ' จะดีที่สุด น้ำมันชนิดนี้จะซึมลึกถึงเกล็ดผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงจากภายใน ไม่หลุดร่วงง่าย 

    มีงานวิจัยเผยว่า น้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดการสูญเสียโปรตีนบนเส้นผม จากการแปรงและไดร์ผมให้แห้งด้วย ถ้าไม่อยากหมักเพียวๆ กลัวผมมันเกินไป ก็หาแชมพู/ครีมนวดที่ผสมมะพร้าว, ผสมกับแชมพูยี่ห้อประจำ หรือลงแค่ปลายผมหลังสระเสร็จก็ได้ค่ะ

    6. น้ำมันทามานู (Tamanu Oil)

    ชื่ออาจจะไม่ค่อยคุ้นหู แต่น้ำมัน tamanu นี่เขาโด่งดังเรื่องเส้นผมพอตัวเลยล่ะ! มันจะมีขายเป็นขวดออยล์เล็กๆ สามารถใช้ผสมกับแชมพู หรือหายี่ห้อที่ผสมอยู่แล้วก็ได้ โดยตัวออยล์ชนิดนี้ จะมีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ และยังบล็อกรังสียูวีจากแสงแดด ไม่ให้ทำร้ายเส้นผมอีกด้วย แค่ใช้ ผมของเธอก็จะไม่แห้งกรอบอีกต่อไป!

    แน่นอนว่ามันให้ผลไม่เท่าสเปรย์กันแดดโดยเฉพาะหรอก แต่ทาไว้ก็ดีกว่าไม่ทา ยิ่งตอนไปอาบแดดชายทะเล หรือเจอแดดเป็นเวลานานๆ ถือว่าป้องกันได้ไม่มากก็น้อย โดยเจือจางกับโจโจ้บาออยล์ นวดหนังศีรษะทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วสเปรย์กันแดดทับบนเส้นผมอีกทีในตอนเช้า หนังหัวจะไม่มัน แต่ช่วยลดการอักเสบ ต้านเชื้อแบคทีเรีย สาเหตุของรังแคและหนังศีรษะลอกด้วยนะคะ ข้อเสียคือมันหาซื้อยากนิดนึง ต้องสั่งจากนอกไม่ก็พรีออเดอร์เอาเนาะ แต่ถ้าใครอยากลองของใหม่ ก็จัดไปค่า

    7. น้ำมันอะโวคาโด (Avocado Oil)

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดผม)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe