สอบได้เกรด A ไม่มี F ขอแชร์ 6 วิธีอ่านหนังสือให้จำก่อนสอบ สำหรับคนความจำสั้น

• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •

นี่ๆ ก่อนที่เราจะโตแบบนี้ เราก็เคยผ่านช่วงเวลาแห่งการเป็นเด็กนักเรียนมาก่อนเหมือนกันนะ ไม่ใช่ว่าเกิดมาแล้วหน้าแก่ เดี๋ยวตีเลยนี่! เข้าใจว่าช่วงเวลาแห่งการอ่านหนังสือสอบมันทรมานขนาดไหน อยากจะจำตามที่คุณครูบอก แต่สมองมันก็ไม่รับ นี่มันวิกฤตที่แท้ทรู ตายแน่!

วันนี้ในฐานะอดีตนักเรียนความจำสั้น ที่ขยันอ่านหนังสือจนหัวจะระเบิด มีทริคดีๆ มาฝากเพื่อนๆ ด้วย เป็นวิธีง่ายๆ สั้นๆ แค่ 6 ข้อ ถ้าคุณสามารถทำได้ตามนี้ รับรองว่าทำข้อสอบได้แน่นอน เรื่องความจำสั้นไม่ใช่ปัญหา ลองทำตามทริคนี้ดู เวิร์ค! จะมีเคล็ดลับแบบไหนบ้าง เราไปดูกันเลยค่ะ

• • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • • •

วิธีแรกคือเริ่มจากการให้เพื่อนๆ หามุมที่เงียบๆ ในบ้านของตัวเองนั่นแหละ อาจจะเป็นห้องนอน สวน หรือสักมุมที่ไม่มีเสียงดังคอยรบกวนอะ ปิดทีวี วิทยุ รวมไปถึงโทรศัพท์ด้วย ยิ่งโทรศัพท์ ตัวดีเลย อย่าได้เอามาว่างใกล้ๆ เวลาอ่านหนังสือ เพราะสุดท้ายแล้วเราจะไม่ได้อ่าน...เชื่อเถอะ

หลังจากที่เรามีมุมเงียบๆ เป็นของตัวเองแล้ว มาเริ่มอ่านกันเลยค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนจำยากจำช้า วิธีของเราก็คือจะอ่านออกเสียงเหมือนกำลังคุยอยู่กับตัวเอง อาจจะฟังดูแปลกใช่มั้ย แต่วิธีนี้ดีมากๆ ช่วยให้เราจำได้ง่ายมากขึ้น ไม่ต้องอ่านดังถึงขนาดแหกปากตะโกนนะ แค่พอให้ตัวเองได้ยินในสิ่งที่ตัวเองกำลังอ่านก็พอ แต่ก็ไม่ใช่ว่าอ่านไปเรื่อยนะ ควรอ่านไปพร้อมๆ กับทำความเข้าใจ แล้วลองพูดออกมาเป็นภาษาพูดของเราดู เท่านี้ก็จะช่วยทำให้น้องๆ อ่านหนังสือได้เข้าใจมากยิ่งขึ้นแล้ว

ปกติเวลาที่เราอ่านรอบแรก เราจะทำความเข้าใจวิชาที่เราอ่านก่อนว่า เรื่อนนี้เป็นยังไง เหตุการณ์เกิดขึ้นแบบไหน ต้นสายปลายเหตุของทั้งหมดทั้งมวลมันมาจากตรงไหน ส่วนไหนที่คุณครูเน้นย้ำ พอเราทบทวนเสร็จแล้ว เริ่มเข้าใจและจดจำสิ่งที่อ่านออกเสียงไปเมื่อกี้ได้แล้ว คราวนี้เราก็จะเริ่มสรุปสั้นๆ ออกมา โดยใช้ภาษาของตัวเอง ให้อ่านแล้วเข้าใจง่ายขึ้น ก็คือเขียนสรุปนั่นแหละ วิธีนี้มันจะช่วยให้เราเหมือนได้ทบทวนอีกรอบ พอทำสรุปเสร็จ ก็จะง่ายต่อการจำมากขึ้น ไม่ต้องมานั่งจำทั้งเล่ม เพราะมันยากเกินไปสำหรับคนความจำสั้น ฉะนั้นอ่านและจำเฉพาะที่เราเขียนสรุปนี้ก็ได้ เพราะถือว่าเราได้ดึงส่วนที่สำคัญของเนื้อหามาไว้ในสรุปนี้แล้ว คราวนี้ก็จะง่ายต่อการจำมากขึ้นด้วย รับรองว่าไม่หนักและช่วยให้เราจำได้ง่ายกว่าเดิมแน่นอน

สำหรับคนที่ขี้เกียจเขียนสรุปใหม่ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีนะ ส่วนตัวเรามีความเชื่อว่า สีจะช่วยทำให้เราจดจำอะไรได้ง่ายมากขึ้น เวลาที่เราเจออักษรสีดำเรียงเหมือนกันหมด แน่นอนวันตาลายค่ะ ฉะนั้นเราก็จะใช้พวกไฮไลต์มาเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยเสริม เพื่อเน้นย้ำว่า ย่อหน้านี้สำคัญนะ ที่สำคัญไม่ควรไฮไลต์ทุกอย่างในหน้านั่นๆ ให้เราไฮไลต์ข้อความที่ครูมักจะย้ำและส่วนที่สำคัญ อาจจะมีเขียนเติมคำพูดขึ้นต้นหรือต่อท้ายตามลงไปก็ได้ ใช้ภาษาของตัวเองให้รู้สึกว่า อ่านแล้วเข้าใจง่ายขึ้นกว่าเดิม เวลาที่เรากลับมาทบทวนในส่วนนี้อีกครั้ง มันจะช่วยทำให้เราเข้าใจและจดจำได้ง่ายและดีขึ้น ทำให้เรารู้ว่า อ่อ ตรงนี้ที่สำคัญ ตรงนี้ควรจำนะ วิธีนี้จะช่วยให้เราทำข้อสอบได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องอ่านทั้งเล่มเลยค่ะ

วิชาบางวิชาอ่านอย่างเดียวไม่ได้จริงๆ อย่างพวก วิชาคณิต วิทย์ อังกฤษ พวกคำศัพท์ต่างๆ แค่อ่านมันไม่พอ ฉะนั้นอีกหนึ่งเคล็ดลับการอ่านหนังสือที่ดีที่น้องๆ ไม่ควรพลาดเลยก็คือ การฝึกทำโจทย์ เพราะนอกจากจะเป็นการทบทวนบทเรียนไปในตัวด้วยแล้ว ยังทำให้เราคุ้นชินกับโจทย์ของวิชานั่นๆ ตามไปด้วย ทั้งยังช่วยให้เราได้รู้แนวข้อสอบว่าจะออกประมาณไหนอีกด้วย ไม่ต้องกลัวว่าผิดหรือถูก ฝึกทำไปเรื่อยๆ เดี๋ยวมันก็ได้เอง คนเราไม่ได้เกิดมาเก่งเหมือนกันทุกคน มันต้องมีผิดบ้างแหละ เฉลยอะ เก็บไว้ดูตอนเราทำโจทย์เสร็จก็พอ จะได้รู้ว่าจุดไหนพลาด จุดไหนไม่พลาด การฝึกแบบนี้จะทำให้เราจำได้ง่ายขึ้น แล้วเวลาไปเจอข้อสอบแบบนี้ในห้องสอบจริงๆ มันจะช่วยทำให้เราเก็ทและสามารถทำข้อสอบนี้ผ่านไปได้อย่างฉลุยเลยแหละ

วิธีที่ห้า คือการถามตัวเอง ว่าเวลาไหนคือเวลาที่เราอ่านหนังสือได้ดีที่สุด อย่างเราเวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 9 โมงเช้า - เที่ยง เพราะรู้เลยว่าถ้าอ่านตอนบ่าย ไม่รอดแน่ๆ เราก็จะเลือกทบทวนบทเรียนในช่วงเช้าให้เต็มที่ แล้วค่อยไปเก็บส่วนยิบย่อยตอนบ่ายๆ หรือเย็นๆ ไปเลย

รู้มั้ยว่าเวลาในการอ่านหนังสือที่ดีของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ฉะนั้นน้องๆ ควรหาช่วงเวลาที่ดีที่สุดของตัวเองให้เจอ ถ้าเราเลือกเวลาที่เหมาะสม มันจะยิ่งทำให้เราเข้าใจและจำบทเรียนได้ดียิ่งขึ้น วิธีนี้นอกจากจะช่วยทำให้เราเข้าใจเนื้อหาที่อ่านไปแล้ว ยังช่วยทำให้เราไม่ต้องใช้พลังสมองมากเกินไปอีกด้วย แถมยังได้มีเวลาในการผ่อนคลายอีก ไม่ต้องรู้สึกกดดันหรือเครียดจนเกินไป แล้วก็ ถ้ารู้สึกง่วงหรือร่างกายไม่พร้อม แนะนำว่าให้พักก่อน อย่าอ่านตอนที่เรากำลังรู้สึกง่วง เพราะคุณจะจำอะไรไม่ได้เลยค่ะ ไว้รอให้ร่างกายฟื้นตัว ค่อยกลับมาอ่านใหม่ แต่ก็อย่าพักนานจนเกินไปนะ เดี๋ยวจะอ่านไม่ทันเด้อ