เวลาว่าง ๆ นึกไม่ออกว่าจะเม้าท์มอยเรื่องอะไร ลองอ่าน 5 ' เรื่องผี ' จากประสบการณ์คนใกล้ตัวของเราดูสิ แล้วคุณจะมีเรื่องหลอน ๆ ชวนนอนไม่หลับไปแชร์ ...

เลือกอ่านตามหัวข้อ
เรื่องที่ 1 - เสียงเรียก
เรื่องที่ 2 - " เขาไม่ได้มาร้าย ... "
เรื่องที่ 3 -
เรื่องที่ 4 - ไม่ต้องห่วง
เรื่องที่ 5 - บ่อมรกต
สวัสดีค่ะสาว ๆ ชาว SistaCafe
วันนี้เราเปิดมาด้วยหัวข้อหลอน ๆ ที่น่าจะถูกใจซิสที่ชอบอ่านเรื่องผี เรื่องหลอน ๆ กันเนอะ เพราะวันนี้เรามี
ประสบการณ์หลอน ๆ จากคนใกล้ตัวมาแชร์กันถึง 5 เรื่อง บอกเลยว่าเจอจริงไม่จกตา ไม่ใช่เรื่องเล่าจากอินเตอร์เน็ต มาให้สาว ๆ ได้ตื่นเต้น แอบเสียวสันหลังวูบวาบ ๆ กันไปเลย อะ ๆ ซิสคนไหนรู้สึกกลัว ๆ หวั่น ๆ ก็ชวนพ่อแม่พี่น้อง เพื่อน ๆ มานั่งใกล้ ๆ ไว้เลยนะคะ หรืออาจจะชวนเขามาอ่านด้วยกันเลยก็ได้ อย่ายอมหลอนคนเดียว ชวนญาติสนิทมิตรสหายมาหลอนด้วยกัน แต่ระวังหลังไว้ให้ดีนะคะ เพราะเขาอาจมาโดยที่ซิส ... ไม่รู้ตัวก็ได้
เรื่องที่ 1 - เสียงเรียก
เรื่องนี้เป็นเรื่องของรุ่นพี่ท่านนึง เราขอแทนชื่อพี่เขาว่าพี่แต๋ม ( นามสมมติ ) นะคะ สมัยเด็ก ๆ พี่แต๋มเรียนอยู่ในจังหวัดหนึ่งทางภาคอีสาน ตอนนั้นพี่แต๋มอาศัยอยู่ที่บ้านคุณยาย ลักษณะบ้านในต่างจังหวัดก็จะเป็นบ้านไม้ มุงด้วยหลังคาสังกะสี และในทุก ๆ คืนพี่เขาจะเข้านอนพร้อมกับคุณยาย ในห้องก็จะมีเตียง มีมุ้งเพื่อกันยุง แล้วก็มีหน้าต่างใส ๆ ที่ไม่มีม่านบัง สามารถมองเห็นพระจันทร์และบ้านตรงข้ามได้ ซึ่งเรื่องมันเริ่มจากคืนนั้นที่พี่แต๋มเข้านอนพร้อมกับคุณยายตามปกติเหมือนทุกวัน หัวถึงหมอนตาก็ปิด หลังจากพี่แต๋มหลับไปได้สักพัก ก็เริ่มได้ยินเสียงคนเรียกชื่อว่า " แต๋ม ... แต๋ม ... "
ตามปกติของมนุษย์ เมื่อมีคนเรียกเราก็จะเริ่มรู้สึกตัว ตอนนั้นเองพี่แต๋มก็เริ่มรู้สึกตัวและตื่นขึ้น ถึงแม้ว่าพี่แต๋มจะตื่นแล้วแต่พี่แต๋มก็ยังไม่ได้ขยับตัวไปไหน ก็ยังคงรอฟังให้มั่นใจว่าตัวเองไม่ได้หูฟาดไป แต่แล้วพี่แต๋มก็ยังคงได้ยินคนเรียกชื่อเรื่อย ๆๆ จนพี่เขารู้สึกข้องใจว่าใครกันนะที่เรียกพี่เขา ตอนนั้นเองพี่แต๋มก็ลืมตาขึ้น แม้ว่าพี่แต๋มจะลืมตาขึ้นแต่เสียงเรียกชื่อก็ยังไม่หยุดลง ด้วยความสงสัยว่าใครมาเรียกเรานัก ก็เริ่มอยากจะรู้ว่าคนที่เรียกชื่อเราอยู่ที่ไหน ...
ในตอนนั้นเองพี่เขาก็เริ่มลุกขึ้นนั่งบนเตียง แล้วค่อย ๆ เดินออกจากมุ้ง ไปทางหน้าต่าง เพื่อที่จะมองหาคนที่เรียกชื่อ แต่ในขณะที่พี่เขากำลังจะยื่นหน้าออกไปตรงหน้าต่าง คุณยายก็เอาแขนมารั้งตัวของพี่เขาไว้ได้ทัน แล้วก็บอกกับพี่เขาว่าให้กลับไปนอน ด้วยความเป็นเด็กก็เชื่อคุณยาย แต่ในใจก็ยังไม่ทิ้งความสงสัยว่าทำไมถึงไม่ไปหาคนที่เรียก จนกระทั่งเช้าคุณยายเตือนพี่เขาว่าถ้าได้ยินเสียงใครเรียกตอนดึก ๆ แล้วไม่รู้ว่าเป็นใครอย่าขานตอบหรืออย่าเดินไปหาต้นเสียง เพราะตอนดึก ๆ วิญญาณพวกนี้จ้องจะหาเด็ก ๆ เพื่อไปอยู่กับมันด้วย ...
เรื่องที่ 2 - " เขาไม่ได้มาร้าย ... "
เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าจากเพื่อนในสาขาของเรา ในวันนั้นเป็นวันที่สาขาของเรามีกิจกรรม ซึ่งกว่าจะเตรียมงานเสร็จมันก็ดึกมากแล้ว เพื่อน ๆ ก็เลยตัดสินใจนอนที่ห้องเพื่อนคนนึง เป็นหอหญิงในมหาวิทยาลัย เพราะทุกคนมองว่ามันสะดวก แล้วก็ยังไงก็ต้องตื่นไปที่คณะพร้อมกันตอนตี 2 ภายในห้องของหอในจะมีเตียงสองชั้นทั้งหมด 2 เตียง ซึ่งตั้งไว้ติดผนัง ตรงกลางห้องเป็นที่ว่าง ๆ ไว้ให้ตั้งโต๊ะทานอาหารกันได้ หลังจากกลับถึงห้องแล้วทุกคนก็รีบเข้านอน
เพื่อนคนที่เป็นเจ้าของห้องก็สละเตียงให้พี ( นามสมมุติ ) นอนคนเดียวเพราะพีค่อนข้างจะเป็นคนนอนดิ้น แล้วเจ้าของห้องก็ไปนอนเตียงเดียวกับเพื่อนอีกคน ซึ่งเตียงที่พีนอนจะมีปลั๊กพ่วงตั้งอยู่ใกล้ ๆ เตียง ด้วยความที่พีเป็นคนนอนดิ้น ก็กลัวว่าถ้าตั้งไว้แบบนี้คงต้องชนแล้วปลั๊กพ่วงตกแน่ ๆ พีก็เลยย้ายปลั๊กที่อยู่ข้าง ๆ เตียงด้านนอกมาไว้ด้านในที่ติดผนังแทน ย้ายเสร็จพีก็ล้มตัวลงนอนหลับ และเรื่องราวหลอนก็กำลังเริ่มต้นขึ้น ...
เวลาผ่านไปสักพักใหญ่ พีสะดุ้งตื่นเพราะมีคนกระชากปลั๊กพ่วงแรงมาก และทันใดนั้นสายตาของพีก็หันไปเห็นเงาดำของผู้หญิงยืนอยู่กลางห้อง ตอนนั้นพีก็เริ่มกลัวแล้วแต่ก็พยายามคิดว่าตัวเองคงคิดมากไปเอง พยายามข่มตานอนต่อ เพราะเดี๋ยวก็จะต้องตื่นไปทำงานอีก พีก็พยายามข่มตานอนต่อแต่ก็นอนไม่หลับ ในใจคิดว่าผ่านไปสักพักแล้วเขาคงไปแล้ว แต่เมื่อเปิดตามาดูอีกครั้ง พีก็ยังคงเห็นเงาดำของผู้หญิงคนเดิมอยู่กลางห้องเช่นเดิม ตอนนั้นพีคิดแล้วว่าเขาคงไม่ไปไหนแน่ เลยทำใจกล้าเดินไปเปิดไฟเพื่อให้เขาหายไป จะได้นอนต่อแบบสบายใจสักที
แต่เมื่อเปิดไฟแล้วเงานั่นก็ยังไม่หายไปไหน พีเริ่มกลัวจนทนไม่ไหว เลยต้องทำใจกล้าเดินอ้อมไปอีกเตียงเพื่อไปปลุกเพื่อน ๆ ให้ตื่น เมื่อเพื่อน ๆ เริ่มตื่น เงาดำที่อยู่กลางห้องนั่นนั่นก็หายไป ซึ่งพอดีกับตอนนั้นเป็นเวลาตี 2 ที่นัดกันไว้พอดี ทุกคนก็เลยเตรียมตัวไปทำงานต่อที่คณะ โดยที่พีก็ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟัง จนกระทั่งตอนเช้า แม่ของพีก็โทรมาหาพีแล้วบอกว่า " เขาไม่ได้มาร้ายนะ เขาไม่ได้จะมาทำอะไร " ...
เรื่องที่ 3 -
เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว วันนั้นเป็นวันที่จะต้องเรียนที่ห้องคอมพิวเตอร์เพราะต้องเรียนวิชาตัดต่อทั้งวัน ตั้งแต่เช้าจรดเย็น ซึ่งครึ่งเช้าเริ่มตั้งแต่เวลา 8.30 - 12.00 น. และครึ่งบ่าย 13.00 - 18.00 น. ด้วยการเรียนในห้องคอมพิวเตอร์ ทำให้อาจารย์อาจจะเห็นหน้าทุกคนในคลาสไม่ชัดนักเพราะมีคอมพิวเตอร์บดบัง ในขณะที่สอนก็จะมีบางช่วงที่อาจารย์ปล่อยให้นักศึกษาทำงาน ก็จะมีนักศึกษาบางส่วนเข้าไปสอบถามอาจารย์เกี่ยวกับเนื้อหาที่เรียน ซึ่งทุกอย่างก็เป็นปกติไม่ได้เหตุการณ์ผิดปกติอะไร จนกระทั่งถึงเวลาเลิกเรียน ... ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้จะหกโมง อาจารย์เริ่มทำการเช็คชื่อนักศึกษา โดยให้นักศึกษาขานตอบรับว่ามาค่ะ/มาครับ อาจารย์ท่านก็เช็คไปเรื่อย ๆๆ จนกระทั่งมาถึงชื่อของเพื่อนคนนึง ซึ่งเมื่ออาจารย์ขานชื่อไปก็ไร้เสียงตอบรับ
เพื่อน ๆ กลุ่มนึงในห้องจึงตัดสินใจบอกอาจารย์ไปว่า " เพื่อนไม่มาค่ะ " อาจารย์ก็ทำหน้างงแล้วถามว่า " ไม่มาได้ไงอะ ผมยังคุยกับเขาอยู่เลยนะ เขามาคุยกับผมที่โต๊ะนี้เลย " ทุกคนก็เริ่มหวั่น ๆ หันมาพูดคุยถามกันว่ามีใครเห็นเพื่อนคนนี้บ้างไหม หรือเพื่อนกลับไปหลังจากจบครึ่งเช้า ผลสรุปก็คือไม่มีใครเห็นเพื่อนคนนั้น บรรยากาศตอนนั้นทุกคนเริ่มใจไม่ดี แต่ก็พยายามคิดในแง่ดีว่าเพื่อนอาจจะมาแต่เราไม่รู้ก็ได้ เพราะเพื่อนคนนี้เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร เราอาจจะไม่ทันสังเกตกันเอง เช้าวันรุ่งขึ้น เราก็พบกับเพื่อนคนนี้เลยได้ถามไปว่าเมื่อวานแกมาเรียนวิชาตัดต่อไหม เพื่อนก็ตอบว่า " เมื่อวานเค้ากำลังนั่งรถจากกรุงเทพมาที่มหาวิทยาลัย ถึงก็เย็น ๆ เลย ไปเรียนไม่ทันหรอก " คำถามคือ ... แล้วที่อาจารย์เห็นนั้นเป็นใคร ?
เรื่องที่ 4 - ไม่ต้องห่วง
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดอื่น ๆ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe