เหนื่อยเกินไปรึเปล่า เผย 7 วิธี 'ดึงตัวเองออกจากความเศร้า' รีสตาร์ทตัวเรา ให้ก้าวต่อไป

•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•

ฮัลโหล~ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรารู้สึกเหนื่อยๆ ท้อๆ ยังไงก็ไม่รู้ เราว่าหลายๆ คนก็น่าจะเป็นปะ เหมือนว่าเจอเรื่องนั้นเรื่องนี้เยอะไปหมด สภาพร่างเลยไม่ไหว มันยอมแพ้ของมันเองโดยอัตโนมัติ

แต่วันนี้ ตอนนี้ เรามีวิธีกำจัดความท้อแท้เหล่านั้นแล้ว ก่อนที่เราจะมีความสุข สิ่งแรกที่เราจะต้องทำคือดึงตัวเองออกจากความเศร้าก่อน แล้วอะไรดีๆ มันจะตามมาเอง เพราะงั้นวันนี้เค้ามี 7 วิธี ดึงตัวเองจากความเศร้ามาฝาก วิธีง่ายๆ ที่เพื่อนๆ สามารถทำได้ ไปดูกันเลยดีกว่าว่าจะมีวิธีเด็ดๆ แบบไหนบ้าง

•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•.•

ก่อนที่เราจะเริ่มกำจัดความเศร้าออกจากชีวิต เราต้องรู้ก่อนว่าอะไรที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ อย่างตัวเค้าเองอะ ก็จะมานั่งคิดกับตัวเองเงียบๆ ว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเป็นแบบนี้ได้ไง คล้ายกับนั่งลำดับเหตุการณ์ก่อนว่าเรื่องเป็นมายังไง หาสาเหตุของความทุกข์นั่นให้เจอ แล้วเราจะรู้เองว่าเราควรแก้มันที่จุดไหน

การที่เรามองเห็นปัญหา รู้ว่าอะไรคือจุดตั้งต้นที่ทำให้ปัญหานั้นเกิดหรือทำให้เรารู้สึกเศร้า มันจะยิ่งทำให้เราแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างตรงจุด มากกว่ามานั่งแก้ไปเรื่อยๆ และพอเรารู้เราแก้ได้ เราก็จะสามารถหลุดออกจากความเจ็บปวดนั้นได้เร็วเช่นกัน

สำหรับคนที่กำลังตกอยู่ในความเศร้า หรือกำลังมีปัญหาในชีวิตแบบเยอะแยะไปหมด นี่ก็เป็นอีกวิธีนึงที่ดีมากๆ คือให้เพื่อนๆ ลองชั่งน้ำหนักความสำคัญของปัญหาต่างๆ ที่เค้ามาในชีวิตดู ดูว่าปัญหาไหนใหญ่บ้าง มีผลกระทบกับตัวเรามากมั้ย ถ้าไม่แก้จะเป็นยังไง เหมาะที่จะมาเสียเวลาและเสียความรู้สึกให้ด้วยรึเปล่า ซึ่งถ้าเราบังเอิญคิดทบทวนกับตัวเอง แล้วดันพบว่าปัญหาบ้างปัญหามันเล็กน้อยมาก มองเห็นแล้วว่าไม่สำคัญมากพอ คือไม่ใส่ใจก็ไม่เป็นไร ก็ควรสลัดมันทิ้งออกไปซะ

ค่อยๆ นั่งคิดไปที่ละเรื่อง อย่าขมวดเรื่องต่างๆ มาเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันนะ เพราะมันจะยิ่งทำให้เราแก้ไขเรื่องต่างๆ ได้ยากขึ้น ฉะนั้นค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทบทวนและแก้กันไปทีละสเต็ป แบบนี้จะง่ายกว่าเนอะ

จริงๆ เราว่าทุกคนก็น่าจะมีคนที่ตัวเองไว้ใจกันอยู่แล้วใช่ปะ จะเป็นแฟนที่รักมาก ครอบครัวหรือเพื่อนสนิทก็ได้ คนที่เรามั่นใจว่าถ้าได้รู้เรื่องของเราแล้ว จะไม่เอาไปเม้าท์ต่อ ก็คนนั้นแหละ คือบางทีเวลาเราเจออะไรมา เรื่องมันเยอะ ถ้ามัวแต่เก็บไว้ มันก็จะอัดอั้น ฉะนั้นเมื่อมาถึงจุดนึงที่เรารู้สึกว่าไม่ได้และ จะเก็บไว้คนเดียวต่อไปไม่ได้ ระบายมันออกมา

การได้พูดได้เล่า มันจะทำให้ความอัดอั้นนั้นอะ หายไป คือมันอาจจะไม่ได้ช่วยให้ความทุกข์ของคุณน้อยลงไปหรอก แต่มันก็ยังดีที่จะทำให้คุณสบายใจขึ้นและบางทีคุณอาจจะได้วิธีแก้ปัญหาดีๆ จากคนที่รับฟังคุณด้วยก็ได้ ฉะนั้นถ้าวันนี้มันเกินจะทน เกินจะเก็บเอาไว้คนเดียวแล้ว ลองหาใครสักคนที่ไว้ใจได้ ระบายมันออกมา แล้วเราจะรู้สึกดีขึ้นไม่มากก็น้อย ฟันธง!

คือเราอะ จะเป็นคนที่ไม่ชอบเอาเรื่องของตัวเองไปเล่าให้ใครฟัง ถ้ามันไม่มากเกินไปจริงๆ จะไม่ค่อยระบายกับใคร ฉะนั้นก็จะมีวิธีที่เป็นของตัวเองคือ การระบายกับตัวเองโดยการร้องไห้ออกมา เห้ย! มันช่วยได้จริงๆ นะ คือเวลาที่เราอัดอั้นกับความเศร้าหรือเหนื่อยล้ากับตัวเองมากๆ พอได้ร้องไห้ออกมา มันรู้สึกสบายใจขึ้นจริง ลองหาห้องเงียบๆ ห้องนอนก็ได้ ห้องน้ำก็ได้ ปิดประตูแล้วนั่งคิดทบทวนเรื่องของตัวเองไปบวกกับร้องไห้โฮ เชื่อเราว่ามันเป็นวิธีที่ดี

แต่ร้องไห้แล้วต้องหยุดนะ หมายความว่าระบายออกมาแล้ว ร้องแล้ว ต้องหยุดและก้าวต่อไป ให้ช่วงเวลาที่เราร้องไห้ เป็นช่วงที่เราเศร้าที่สุด พอหยุดแล้วเริ่มใหม่ อย่าจมอยู่กับความทุกข์นั้นซ้ำๆ ซากๆ ลุกขึ้นล้างหน้า แล้วก้าวต่อไป ยิ้มเยอะๆ วันใหม่เป็นวันที่ดีเสมอค่ะ