รักตัวเองก็พอ 5 'วิธีโนสน โนแคร์ เลิกอิจฉาคนมีคู่' ฉบับสาวโสด #โสดแล้วไง อยู่คนเดียวก็ได้ป้ะ

เห็นนคนมีคู่แล้วมันอิจฉา ยิ่งช่วงนี้เพิ่งจะผ่านพ้นวันวาเลนไทน์มาไม่นาน

คนมีคู่เค้าก็ยังหวานลงโซเชียลแบบไม่ว่างเว้น แล้วยิ่งช่วงนี้คู่รักโทนี่ แก้ว หวานกันเหลือเกิน

คนโสดมานานอย่างเรา ไม่ให้อิจฉาเค้าได้ยังไงกันล่ะคะ ! แต่เราต้องเลิกค่ะพี่ขา

โสด สวย ขนาดนี้เราก็ต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง

เลยจะไปหาวิธีจัดการความรู้สึกตัวเอง ให้โนสน โนแคร์ เลิกอิจฉาคนมีคู่สักที บอกเลยว่าถ้าทำได้ เราจะเป็นคนโสดที่ดูดีมีความสุข ตั้งสติไว้ว่า จงเป็นคนโสดที่คนมีคู่เค้าอิจฉา 5 วิธีง่ายๆเท่านั้น ทำยังไงได้บ้าง ตามเรามาส่องเลยจ้า 

+++++++++++++++++

จงโฟกัส

มันเป็นเรื่องง่ายมากเลยค่ะซิสขา ที่คนโสดอย่างเราจะเห็นคู่รักหวานแหววจากคนใกล้ตัว หรือแม้กระทั่งเซเลบดาราที่เขาขยันหวานกันออกสื่อ จนเราต้องอิจฉา แล้วตั้งคำถามกับตัวเองว่าสมควรมั้ยที่เรายังโสดอยู่อย่างนี้ 

เราแค่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า " จำเป็นขนาดไหนที่เราต้องเอาความสัมพันธ์ของคู่อื่น มาส่งผลกระทบกับตัวของเราเอง " และให้คิดซะว่า บางทีความโสดในตอนนี้ มันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ ที่เราจะค้นหาตัวเอง ได้พัฒนาตัวเอง ได้ทำในสิ่งที่เราอยากทำ ในแบบที่ว่าตอนมีคู่เราทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ แล้วเจ้ก็ยังอยากจะบอกไว้อีกอย่าง บางทีความสัมพันธ์ของคนมีคู่มันไม่ได้ดูหวานอย่างที่เราเห็นออกมา เค้าก็ต้องมีปัญหาของเค้า เราก็แค่โฟกัสตัวเรา แล้วก็เรื่องที่เราอยากทำเท่านั้นก็พอค่า

บางทีเราเห็นคู่รัก ยกตัวอย่างเช่นคู่ของเพื่อนของเรา ว่าเป็นคู่หวานละมุนละไม ชอบแสดงความรักกันออกสื่อ เป็นที่อิจฉากับตัวเรา หรือแม้กระทั่งเราเองที่เป็นคนโสดที่เหลืออยู่คนเดียวที่อยู่ในกลุ่ม มันทำให้เราต้องรีบเร่งหาคู่สักที บางทีการมีคู่เพราะว่า " อยากมีเหมือนเขา " มันไม่ใช่สิ่งที่เรามีความสุขจริงๆ นะแกร เพราะฉะนั้น " เราอย่าพยายามที่เป็นเหมือนเขา เพราะนั่นไม่ใช่ความสุขของเราจริงๆ "

การมีคู่ของเรา หรือความรักของเรา เหมือนต้องอยู่ในเวลาที่ใช่ คนต้องใช่ด้วยนะเออ อย่าพยายามกดดันตัวเอง เพียงเพราะเห็นคนมีคู่และเห็นเค้ามีความสุข ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่มีการแสดงออกหลากหลายรูปแบบ ความสุขของเขา อิาจไม่ใช่ความสุขของเราก็ได้ เพราะฉะนั้นหากความสัมพันธ์ของเรา มันจะเกิดขึ้นต้องอยู่ที่เราและคู่ของเราพอใจ และดีต่อกันและกัน

กฎข้อแรก " ไม่มีอะไรเป็นจริงทั้งหมด บนโลกอินเตอร์เน็ต "

แน่นอนว่าเราจะเห็นคู่รักที่หวานแหวว ดูดี ดูเข้ากันบนโลกโซเชียล จนทำให้เรามาเกิดความอิจฉา แต่จำไว้เลยว่า บางทีการลงเรื่องราวบนโลกโซเชียล ส่วนใหญ่คนจะลงเรื่องที่ดีของความสัมพันธ์ที่เกิดคู่ มันมีไม่กี่คนหรอกค่ะซิส ที่กล้าลงส่วนที่แย่ที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ของตัวเอง เพราะฉะนั้น โลกอินเตอร์เน็ตบางทีมันไม่ใช่เรื่องจริง เราไม่จำเป็นต้องเอาส่วนนั้นมากังวลต่อชีวิตของเรา

John Remus ผู้อาวุโสที่ Iowa State University กล่าวว่า "การที่เราหมกมุ่นอยู่บนโลกโซเชียลมากๆ
ไม่ว่าจะเป็นโลกเฟสบุ๊ค หรือทวิตเตอร์ มันไม่ดีต่อสุขภาพ เพราะาเรากำลังเอาความสัมพันธ์ของคู่
อื่นมามีผลกระทบต่อคุณเอง เพราะฉะนั้นติดตามคู่รักบนโลกโซเชียลให้น้อยลงแล้วหันมาพัฒนาความ
สัมพันธ์ในชีวิตจริง เราจะมีความสุขกว่า

จงจำไว้ว่า " โลกโซเชียลไม่ได้เป็นตัวแทนความสัมพันธ์ที่ดีของทุกคู่ "

เมื่อว่าเวลาที่พูดมันจะพูดง่าย แต่ทำยิ่งยากกว่า " จงมีความสุขเมื่อเห็นคนเขารักกัน "

แต่เราก็ต้องปรับ mindset ของตัวเองใหม่ ค่อยๆ ปรับทีละนิดก็ยังดี เวลาเห็นคนมีความรักเดินมา เมื่อว่ามันจะมีความสัมพันธ์เบื่องลึกของคู่รักคู่นั้นที่มันอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ แต่เราก็แค่บอกตัวเองว่า "คู่นี้น่ารักดี" " คู่นี้ต้องคบกันไปนานแน่ๆ " เพราะว่าการที่เราคิดบวกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของคู่รักคู่อื่น การพยายามกำจัดมุมมองที่เป็นลบเมื่อเรามองเห็นคนอื่นเค้ารักกัน มันทำให้สุขภาพจิตของเราดีขึ้น แล้วทำให้ความสัมพันธ์ของเราที่จะเกิดขึ้นของเราในอนาคตดีขึ้น เพราะว่ามันไม่มีความจำเป็นเลยค่ะ ที่เราต้องไปอคติกับคู่รักคู่อื่น ที่เราไม่มีผลต่อความสัมพันธ์ของเค้า แล้วมันก็ไม่ได้กระทบอะไรกับชีวิตของเรา 

และแม้ว่าชีวิตตอนนี้เรายังไม่มีเรื่องดีอะไรเกิดขึ้น แต่การมองคู่อื่นที่เค้ามีความสุขมันดีจะดีกว่า การมองเห็นคนอื่นที่เค้ารักกันแล้วเกิดความทุกข์ ที่มาจาก " อคติ " ในตัวเราเองนะคะ