เป็นผิวที่โหยหาน้ำมันมากก ครีมต้องทา โลชั่นอย่าให้ขาด ลืมทาครั้งนึงผิวแตกเป็นริ้วๆ หน้าหนาวเมื่อไหร่ ขยับผิวทีดังเอี๊ยดๆ เป็นแผลเลือดซิบเลยจ้า T^T อยากดูแลให้ผิวสมดุลขึ้นบ้าง สักนิดก็ยังดี มาเก็บทริคในบทความนี้กัน

เลือกอ่านตามหัวข้อ
❤ ' ผิวแห้ง ( Dry Skin ) ' คือผิวแบบไหนกันนะ? ❤.
♡ เคล็ดลับดูแลผิว สาวผิวแห้ง Step1
- อาหารการกิน -
♡ เคล็ดลับดูแลผิว สาวผิวแห้ง Step2
- คลีนซิ่ง + สกินแคร์ -
♡ เคล็ดลับดูแลผิว สาวผิวแห้ง Step3
- เครื่องสำอาง -
♡ เคล็ดลับดูแลผิว สาวผิวแห้ง Step 4
- ข้อห้าม / ข้อผิดพลาด ที่ทำให้ ' หน้าแห้งแตก ' เพิ่มขึ้น ! -
เซย์ไฮส่งท้ายปีค่า! สาวๆ SistaCafe ทั้งหลาย (✧ω✧)
ผ่านคริสต์มาสกันไปแล้วหมาดๆ ใครไปร้อง Jingle Bell ที่ไหนมาบ้างเล่าซิ? อีกไม่กี่วันแล้วจริงๆ ที่เราจะโบกมือลาปี 2018 อย่างเป็นทางการ ตื่นเต้นเวอร์! เพราะปีหน้าเราก็จะแก่ เอ๊ย! เป็นสาวขึ้นอีกปีแล้วค่ะซิส ปีหน้าจะมีอะไรรอเราอยู่บ้าง การงานใหม่? ที่เรียนใหม่? หรือเพื่อนใหม่? ก็ต้องไปลุ้นกันเอาเนอะ ☆ ~('▽^人)
และในโอกาสพิเศษนี้ ทาง SistaCafe Editor จึงขอคลอดบทความซีรีส์ ' เคล็ดลับดูแลผิว ส่งท้ายปี 2018 ' แยกเป็นผิวมัน ผิวผสมและผิวแห้ง รวม 3 บทความด้วยกัน เนื้อหาจะรวบรวมทั้งอาหารการกิน สกินแคร์ เครื่องสำอาง และข้อห้ามต่างๆ ที่ทำให้ผิวแย่ลง ในมุมมองของซิส เพื่อสาวซิส #อ่านกันจุใจไปเลยค่า!
ในบทความสุดท้าย ส่งท้ายซีรีส์นี้ เราจะจบท้ายด้วย ' สาวผิวแห้ง ' ที่ขึ้นชื่อเรื่องแผนที่แตกลายบนผิว เพราะคนผิวชนิดนี้มักจะแห้งทั้งหน้า ทั้งตัว! ฤดูร้อนยังไม่เท่าไหร่ เข้าฤดูหนาวนี่โอ้โห...แห้ง แสบ คันยิบๆ มันทรมานมากเลยนะเออ ;__; ไปเที่ยวแล้วลืมเอาครีมมา ต้องหาซื้อใหม่ฉุกเฉินกันให้วุ่น เพื่อนมาจับก็บอกหน้าหยาบกร้าน ไปทำสวนมาเรอะ!? -*-
ไม่ต้องนอยด์น้า เพราะวันนี้เรามาแนะนำเคล็ดลับดูแลผิว ทั้งอาหาร คลีนซิ่ง เมคอัพและสกินแคร์ รับรองว่าผิวจะเนียนนุ่ม ฉ่ำวาวแบบสาวเกา ได้อย่างแน่นอน ขอแค่ทำให้ถูกวิธีค่ะ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
ไม่ต้องนอยด์น้า เพราะวันนี้เรามาแนะนำเคล็ดลับดูแลผิว ทั้งอาหาร คลีนซิ่ง เมคอัพและสกินแคร์ รับรองว่าผิวจะเนียนนุ่ม ฉ่ำวาวแบบสาวเกา ได้อย่างแน่นอน ขอแค่ทำให้ถูกวิธีค่ะ พร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย!
❤ ' ผิวแห้ง ( Dry Skin ) ' คือผิวแบบไหนกันนะ? ❤.
จากเว็บไซต์ Healthline.com ( เว็บไซต์ทางการแพทย์ของฝรั่ง ) ได้กล่าวไว้ว่า สาวๆ ที่มี ' ผิวแห้ง ' คือสภาพที่ผิวขาดความชุ่มชื้น หยาบกร้าน ขาดน้ำ จนทำให้ผิวหนังแห้งแตก คัน ลอกเป็นขุย ใครที่ผิวแห้งรุนแรง ผิวจะเป็นสีแดง อาจเกิดการปวด อักเสบ เลือดซึม ติดเชื้อได้
ผิวแห้งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์, สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง, อาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไป, แพ้เครื่องสำอาง หรือผลข้างเคียงจากยา มักไม่ได้แห้งแค่บริเวณใบหน้า แต่เป็นทั่วทั้งร่างกาย เช่น มือ แขน ขา เป็นต้น
ข้อดี : เป็นสิวบนหน้าน้อยกว่าสาวผิวมัน, รูขุมขนเล็กและเรียบเนียนกว่าสาวผิวมัน, ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันได้เยอะกว่า ไม่ต้องระวังเท่าสาวผิวมันมากๆ
ข้อเสีย : อากาศหนาวเมื่อไหร่ ผิวแห้งแตกเป็นเกล็ด ลอกเป็นขุยได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่นๆ, เกิดริ้วรอยได้ง่าย, มีสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ผิวได้ง่าย ( เพราะมีรอยแตกบริเวณผิวให้เชื้อเข้ามา )
ผิวแห้งเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่น กรรมพันธุ์, สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง, อาบน้ำอุ่นบ่อยเกินไป, แพ้เครื่องสำอาง หรือผลข้างเคียงจากยา มักไม่ได้แห้งแค่บริเวณใบหน้า แต่เป็นทั่วทั้งร่างกาย เช่น มือ แขน ขา เป็นต้น
ข้อดี : เป็นสิวบนหน้าน้อยกว่าสาวผิวมัน, รูขุมขนเล็กและเรียบเนียนกว่าสาวผิวมัน, ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีน้ำมันได้เยอะกว่า ไม่ต้องระวังเท่าสาวผิวมันมากๆ
ข้อเสีย : อากาศหนาวเมื่อไหร่ ผิวแห้งแตกเป็นเกล็ด ลอกเป็นขุยได้ง่ายกว่าผิวชนิดอื่นๆ, เกิดริ้วรอยได้ง่าย, มีสิ่งแปลกปลอมหรือเชื้อโรคเข้าสู่ผิวได้ง่าย ( เพราะมีรอยแตกบริเวณผิวให้เชื้อเข้ามา )
วิธีรักษาความสะอาดเบื้องต้น
- เลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด / แช่น้ำอุ่นจัด น้ำร้อน บ่อยเกินความจำเป็น
- อย่าอาบน้ำนาน ( ไม่ควรเกิน 10 นาที )
- ใช้สบู่อาบน้ำสูตรครีม มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว ดีกว่าสบู่ก้อนแบบด่างทั่วไป
- เวลาเช็ดตัว ใช้ผ้าแตะผิวเบาๆ ให้พอหมาด อย่าถูผิวแรงๆ จนระคายเคือง
- ถ้าผิวแห้งจนคัน อย่าเกา ให้เอาโลชั่นทาบริเวณนั้นให้ชุ่มชื้น
- ( ถ้ามีทุนทรัพย์เหลือ ) ซื้อ ' เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ( Humidifier ) ' ในห้องนอน, ห้องนั่งเล่นในบ้าน เพื่อให้อากาศไม่แห้ง ผิวก็จะไม่ขาดน้ำ แห้งน้อยลงนั่นเอง
- จิบน้ำเยอะๆ ตลอดทั้งวัน 8 แก้ว/ วัน
เมื่อสาวๆ เข้าใจสภาพผิวหน้าของตัวเองแล้ว เราก็มาเริ่มดูแลผิวทีละ Step กันเลย ไปค่ะ!!!
- เลี่ยงการอาบน้ำอุ่นจัด / แช่น้ำอุ่นจัด น้ำร้อน บ่อยเกินความจำเป็น
- อย่าอาบน้ำนาน ( ไม่ควรเกิน 10 นาที )
- ใช้สบู่อาบน้ำสูตรครีม มอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิว ดีกว่าสบู่ก้อนแบบด่างทั่วไป
- เวลาเช็ดตัว ใช้ผ้าแตะผิวเบาๆ ให้พอหมาด อย่าถูผิวแรงๆ จนระคายเคือง
- ถ้าผิวแห้งจนคัน อย่าเกา ให้เอาโลชั่นทาบริเวณนั้นให้ชุ่มชื้น
- ( ถ้ามีทุนทรัพย์เหลือ ) ซื้อ ' เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศ ( Humidifier ) ' ในห้องนอน, ห้องนั่งเล่นในบ้าน เพื่อให้อากาศไม่แห้ง ผิวก็จะไม่ขาดน้ำ แห้งน้อยลงนั่นเอง
- จิบน้ำเยอะๆ ตลอดทั้งวัน 8 แก้ว/ วัน
เมื่อสาวๆ เข้าใจสภาพผิวหน้าของตัวเองแล้ว เราก็มาเริ่มดูแลผิวทีละ Step กันเลย ไปค่ะ!!!
♡ เคล็ดลับดูแลผิว สาวผิวแห้ง Step1
- อาหารการกิน -
สเต็ปแรกของคนผิวแห้ง ก็ต้องเริ่มที่ ' ของกิน ' เพราะเป็นสิ่งที่ทำอยู่ทุกวัน และง่ายที่สุดในการเติมไขมันเข้าร่างกาย ถ้าสาวผิวแบบนี้ชอบของมัน เธอจะ Enjoy Eating มากเวอร์ แต่ต้องเป็นไขมันดีนะ! >//< หลักการเลือกอาหารก็ง่ายๆ ตามเช็คลิสต์ด้านล่าง ดังนี้
*ควรกิน*
❤ ปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และเมล็ดแฟลกซ์ ( flax seed )
กินทำไม? : เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันชั้นดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ชั้นผิว ผิวแข็งแรงขึ้น ถ้าขาดกรดชนิดนี้ ผิวจะแห้งและคันได้ง่าย
❤ ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ และอะโวคาโด
กินทำไม? : มีวิตามิน E สูง ซึ่งเป็นกำแพงป้องกันเซลล์ผิวหนังไม่ให้ถูกทำลาย หรือเปลี่ยนสภาพจากรังสียูวีค่ะ
❤ มันหวาน
กินทำไม? : มีเบต้าแคโรทีนสูง แหล่งของวิตามิน A ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งแตก ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ไม่ทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัยด้วยน้า
❤ น้ำมันมะกอก
กินทำไม? : มีวิตามิน E ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดโอเมก้า 3 สูง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้หัวใจแข็งแรง ปกป้องผิวจากรังสียูวี ไม่ทำให้ผิวแห้งและไม่เกิดกลากเกลื้อน
❤ แตงกวา
กินทำไม? : เป็นผักที่มีอัตราส่วนของน้ำสูงมาก! มีวิตามิน A, D ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้มากกว่าเดิม
*ควรกิน*
❤ ปลาชนิดต่างๆ เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า และเมล็ดแฟลกซ์ ( flax seed )
กินทำไม? : เป็นแหล่งของกรดโอเมก้า 3 ซึ่งเป็นกรดไขมันชั้นดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ชั้นผิว ผิวแข็งแรงขึ้น ถ้าขาดกรดชนิดนี้ ผิวจะแห้งและคันได้ง่าย
❤ ถั่วชนิดต่างๆ เช่น ถั่วลิสง มะม่วงหิมพานต์ อัลมอนด์ และอะโวคาโด
กินทำไม? : มีวิตามิน E สูง ซึ่งเป็นกำแพงป้องกันเซลล์ผิวหนังไม่ให้ถูกทำลาย หรือเปลี่ยนสภาพจากรังสียูวีค่ะ
❤ มันหวาน
กินทำไม? : มีเบต้าแคโรทีนสูง แหล่งของวิตามิน A ช่วยป้องกันไม่ให้ผิวแห้งแตก ซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย ไม่ทำให้ผิวร่วงโรยก่อนวัยด้วยน้า
❤ น้ำมันมะกอก
กินทำไม? : มีวิตามิน E ไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว และกรดโอเมก้า 3 สูง เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้หัวใจแข็งแรง ปกป้องผิวจากรังสียูวี ไม่ทำให้ผิวแห้งและไม่เกิดกลากเกลื้อน
❤ แตงกวา
กินทำไม? : เป็นผักที่มีอัตราส่วนของน้ำสูงมาก! มีวิตามิน A, D ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้นและยืดหยุ่นได้มากกว่าเดิม
*ไม่ควรกิน*
❤ ของกินทุกอย่างที่ผสม ' น้ำตาล ' เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่มต่างๆ บิงซู ไอติม ป๊อบคอร์น หรือแม้แต่อาหาร ก็ไม่ควรโรยน้ำตาลลงไป!
ห้ามกินทำไม ? : น้ำตาลทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวดูร่วงโรย แห้งสาก และเกิดริ้วรอยก่อนวัย ( ยังไม่นับถึงความอ้วนด้วย! ) ยิ่งกินหวานเยอะ ผิวก็จะยิ่งแห้งนั่นเอง
❤ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
ห้ามกินทำไม ? : คาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นกรด ส่งผลต่อฮอร์โมนและระดับความเครียดในร่างกาย ยิ่งเธอเครียด ร่างกายก็ยิ่งผลิตน้ำมันออกมา ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งยิ่งกว่าเดิม
❤ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ห้ามกินทำไม ? : แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติดูดความชุ่มชื้นออกมาจากผิว ทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ อีกทั้งยังทำลายอวัยวะภายใน เช่น ตับ อีกด้วย
❤ ของกินทุกอย่างที่ผสม ' น้ำตาล ' เช่น ขนมหวาน เครื่องดื่มต่างๆ บิงซู ไอติม ป๊อบคอร์น หรือแม้แต่อาหาร ก็ไม่ควรโรยน้ำตาลลงไป!
ห้ามกินทำไม ? : น้ำตาลทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในผิว ทำให้ผิวดูร่วงโรย แห้งสาก และเกิดริ้วรอยก่อนวัย ( ยังไม่นับถึงความอ้วนด้วย! ) ยิ่งกินหวานเยอะ ผิวก็จะยิ่งแห้งนั่นเอง
❤ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น ชา กาแฟ
ห้ามกินทำไม ? : คาเฟอีนมีฤทธิ์เป็นกรด ส่งผลต่อฮอร์โมนและระดับความเครียดในร่างกาย ยิ่งเธอเครียด ร่างกายก็ยิ่งผลิตน้ำมันออกมา ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น แห้งยิ่งกว่าเดิม
❤ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด
ห้ามกินทำไม ? : แอลกอฮอล์มีคุณสมบัติดูดความชุ่มชื้นออกมาจากผิว ทำให้ผิวเกิดการอักเสบได้ อีกทั้งยังทำลายอวัยวะภายใน เช่น ตับ อีกด้วย
❤ ของทอดทุกชนิด
ห้ามกินทำไม ? : แม้เป็นสาวผิวมัน ก็ไม่ควรกินของทอดค่ะซิส เพราะของทอดส่วนใหญ่ มักใช้น้ำมันที่ใช้ซ้ำบ่อยๆ จึงเกิดการ oxidation เกิดสารอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดโทษ เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ กระทบระบบไหลเวียนเลือด ต้านการดูดซับสารอาหารเข้าร่างกาย
❤ ผลิตภัณฑ์ประเภทนมวัว ที่ใช้สารเคมี
ห้ามกินทำไม ? : งานวิจัยบางแห่งบอกว่า นมวัวทั่วไปมีฮอร์โมนสูง เพราะถูกให้ยา จะได้มีนมออกมาขายเยอะๆ เมื่อเธอดื่มเข้าไป จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน เอสโตรเจนเยอะเกินความจำเป็น เกิดสิว และเพิ่มความเสี่ยงมีเมือกในร่างกาย เกิดการอักเสบ แบคทีเรียเติบโตได้ ทางที่ดีเลือกนมวัวที่เป็น grass-fed ( เลี้ยงด้วยหญ้า ) ออร์แกนิก หรือเป็นนมจากถั่ว จะดีกว่าค่ะ
เข้าใจเรื่องอาหารแล้ว มาทำความสะอาด-บำรุงผิวกัน ที่ขั้นตอนต่อไปเลย!
ห้ามกินทำไม ? : แม้เป็นสาวผิวมัน ก็ไม่ควรกินของทอดค่ะซิส เพราะของทอดส่วนใหญ่ มักใช้น้ำมันที่ใช้ซ้ำบ่อยๆ จึงเกิดการ oxidation เกิดสารอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดโทษ เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจ กระทบระบบไหลเวียนเลือด ต้านการดูดซับสารอาหารเข้าร่างกาย
❤ ผลิตภัณฑ์ประเภทนมวัว ที่ใช้สารเคมี
ห้ามกินทำไม ? : งานวิจัยบางแห่งบอกว่า นมวัวทั่วไปมีฮอร์โมนสูง เพราะถูกให้ยา จะได้มีนมออกมาขายเยอะๆ เมื่อเธอดื่มเข้าไป จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวน เอสโตรเจนเยอะเกินความจำเป็น เกิดสิว และเพิ่มความเสี่ยงมีเมือกในร่างกาย เกิดการอักเสบ แบคทีเรียเติบโตได้ ทางที่ดีเลือกนมวัวที่เป็น grass-fed ( เลี้ยงด้วยหญ้า ) ออร์แกนิก หรือเป็นนมจากถั่ว จะดีกว่าค่ะ
เข้าใจเรื่องอาหารแล้ว มาทำความสะอาด-บำรุงผิวกัน ที่ขั้นตอนต่อไปเลย!
♡ เคล็ดลับดูแลผิว สาวผิวแห้ง Step2
- คลีนซิ่ง + สกินแคร์ -
เราเชื่อว่าสาวผิวแห้งหลายๆ คนกลัวการล้างหน้า! เพราะล้างทีไร ผิวแห้งตึงเอี๊ยด แสบหน้าทุกที ( เพื่อนเราหลายคนก็เป็น ) แต่ที่จริงมันขึ้นอยู่กับว่า เราเลือกประเภทคลีนซิ่งที่เหมาะกับผิวหรือไม่? ถ้าเลือกถูก ผิวจะไม่แห้งเลย ชุ่มชื้นกว่าเดิมอีกต่างหาก หลักการมีดังนี้เลยค่า
หลักการใช้คลีนซิ่ง ที่เหมาะกับสาวผิวแห้ง
✔เริ่มขั้นตอนแรก ด้วย ' คลีนซิ่งออยล์ / ครีม / บาล์ม / โลชั่น ' สูตรอ่อนโยน ใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ค่า pH ของผิวหน้าสมดุลขึ้น
✔ ' โทนเนอร์ ' ใช้หลังล้างหน้าตอนเย็นเท่านั้น ตอนเช้าใช้แค่สำลีชุบน้ำเปล่าก็พอ หน้าจะได้ไม่แห้ง ลอกเป็นขุยนะคะ
✔ ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรใช้ ' สครับหน้า ' เพราะหน้าจะยิ่งเป็นขุย เป็นแผล ถ้าอยากผลัดเซลล์ผิว ใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่มเช็ดเบาๆ ทั่วใบหน้า หรือใช้ไอเทมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ทาบางๆ ที่ผิว 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ให้ผิวลอกออกเองตามธรรมชาติ จะดีกว่าค่ะ
หลักการใช้คลีนซิ่ง ที่เหมาะกับสาวผิวแห้ง
✔เริ่มขั้นตอนแรก ด้วย ' คลีนซิ่งออยล์ / ครีม / บาล์ม / โลชั่น ' สูตรอ่อนโยน ใช้ส่วนผสมหลักจากธรรมชาติ ที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิว ค่า pH ของผิวหน้าสมดุลขึ้น
✔ ' โทนเนอร์ ' ใช้หลังล้างหน้าตอนเย็นเท่านั้น ตอนเช้าใช้แค่สำลีชุบน้ำเปล่าก็พอ หน้าจะได้ไม่แห้ง ลอกเป็นขุยนะคะ
✔ ถ้าเป็นไปได้ ไม่ควรใช้ ' สครับหน้า ' เพราะหน้าจะยิ่งเป็นขุย เป็นแผล ถ้าอยากผลัดเซลล์ผิว ใช้ผ้าขนหนูเนื้อนุ่มเช็ดเบาๆ ทั่วใบหน้า หรือใช้ไอเทมที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ทาบางๆ ที่ผิว 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ให้ผิวลอกออกเองตามธรรมชาติ จะดีกว่าค่ะ
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe