ร่างพังได้! แต่งานห้ามพัง!! ใครเป็นแบบนี้เราประสบชะตากรรมเดียวกัน ประสบการณ์พังๆ ที่เราอยากแชร์ พร้อมกับตัวช่วยที่ช่วยเสริมให้เราสู้!! ต่อไปไหว ! ! !

สวัสดีค่ะ สาวๆ ชาว SistaCafe จริงๆ คิดอยู่ว่าจะลงในสุขภาพหรือไลฟ์สไตล์ดี เพราะเราอยากจะแชร์ประสบการณ์พังๆ ที่เราพังตัวเอง เจ็บเอง พังเอง เพื่อเป็นการเตือนสาวๆ วัยทำงานกันค่ะ

ไม่ไหวละ 4 ทุ่มก็ไม่ไหวแล้ว~~~ ให้อยู่โยงทำงานเช้าวันหนึ่งถึงอีกวันไม่ไหวแล้วจ้า!! ทั้งๆ ที่เมื่อก่อนทำงานติดต่อกันเกิน 24 ชม.ยังไหว เราเป็นคนหนึ่งที่มาในสาย Work hard ตั้งแต่มัธยมฯ แต่ตอนนี้ Strong ไม่ไหวซะแล้ว ToT ไมเกรนก็มาจ่อหัวทุกค่ำเช้า อาการอ่อนหล้า อ่อนเพลียมีมาบ่อยขึ้น บางครั้งเรายังเคยวูบในแท็กซี่ แต่เพื่องานต้องเดินต่อยังไงเราก็ต้องสู้!!
ถ้าคนที่ทำงานดึกๆ บ่อยๆ หรือทำงานจนไม่ได้นอน จะรู้ดีว่ามันจะมีจุดๆ หนึ่งที่เป็นจุดง่วง ถ้าเลยจุดนั้นมาแล้วเราจะตื่นยาวเลย บางทีอยู่ได้จนถึงจุดง่วงของอีกวันหนึ่งโดยไม่ง่วงเลย ใช้ชีวิตได้ปกติโดยไม่ได้นอน เราใช้ชีวิตแบบนี้ติดต่อกัน จนไปถึงจุดที่เราเป็นโรคเครียด นอนไม่หลับ ร่างกายจะตื่นตลอดเวลา แค่อยากนอนให้หลับ เรายังทำไม่ได้ มันแย่มากหลังจากนั้นมันเป็นอะไรที่แย่มากๆ ชีวิตเราพังสุดๆ เราต้องพักรักษาตัวเป็นยกใหญ่ กว่าที่ร่างกายจะกลับเข้าที่ และพยายามนั่งสมาธิใช้การวิปัสนาเข้าช่วย เพื่อให้ใจมันสงบ เวลาเจอเรื่องวุ่นวายเราจะได้ไม่ว้าวุ่นตาม
ขอบอกก่อนเลยว่า หลังจากที่ปวดไมเกรนอย่างหนัก จนต้องหยุดงานเพื่อพัก เราหลีกเลี่ยงพวกคาเฟอีนไปเลย เพราะพวกนี้จะกระตุ้นให้ไมเกรนเป็นหนักขึ้น
เราเลยลองกิน Eating Oxygen ตัวนี้เหมือนตัว Re-boost อะ คือทานไปแล้วมันจะรู้สึกสดชื่นขึ้น สมองโล่งขึ้น ไม่อื้อ ไม่ตึง รู้สึกปลอดโปร่ง หายใจสะดวกขึ้น

เค้าจะขายเป็นซองแบบนี้ นี่คือก่อนจะถูกฉีก
มันเป็นยังไงอะเหรอ
คือตอนแรกเราก็สงสัยนะ ว่าออกซิเจนแบบกินได้มันหน้าตาเป็นยังไง? รสชาติยังไง?
วิธีทานก็ง่ายๆ ฉีกซอง ( ซองฉีกง่ายมาก ) แล้วกรอกใส่ปากเลย มันเป็นผงแห้งๆ เหมือนคุกกี้ที่บดละเอียด กลิ่นก็เหมือน รสชาติก็หวานๆ ไม่ต้องเคี้ยวนะ กลืนลงไปเลย แล้วดื่มน้ำตาม เขาไม่ให้ผสมกับน้ำ และ ห้ามคนแพ้อาหารทะเลทาน ( มีส่วนผสมของไคโตซาน )
ทานแล้วก็ทิ้งไว้สัก 20 - 30 นาที นั่งพักสักแป๊บให้ออกซิเจนมันทำงาน แล้วจะรู้สึกเย็นๆ ในหัวไม่รู้คิดไปเองรึเปล่านะ สมองมันจะโล่งๆ ไม่ปวด ไม่อื้อ รู้สึกดีขึ้น สดชื่น เราทำงานต่อได้เลย ได้อีกยาวๆ เลย ไม่ง่วงไม่เพลีย ปกติถ้าทำงานดึกๆ ยิ่งเกิน 10 - 12 ชั่วโมงมาแล้วรู้สึกได้เลยว่าสมองล้ามาก คิดอ่านอะไรก็อืดๆ จะเริ่มปวดหัวตื้อๆละ หายใจไม่ค่อยออก ( เพราะเราเป็นภูมิแพ้ ) แต่พอทานแล้วมันดีขึ้น
เราจะทานเฉพาะวันที่รู้สึกอ่อนล้าแบบสุดๆ แต่ก็ยังต้องทำงานต่อไป ปกติถ้าทิ้งงานแล้วไปนอนก็นอนไม่หลับ มันจะกระสับกระส่าย ต้องกลับมาทำงานต่อจนเสร็จ แต่ถ้าดื่มกาแฟมันจะตื่นแค่ตัว สมองมันจะงงๆ เบลอๆ กินมากๆ เราจะมือสั่น ใจสั่น แต่ตัวออกซิเจนไม่เป็นแบบนั้น มันให้ผลต่างออกไป คือเราทำงานต่อได้ตัวตื่น สมองตื่น แต่พองานเสร็จเข้านอนก็นอนหลับสนิทปกติดี ซึ่งบางทีอะพอสมองมันตื่นแล้วมันจะไม่หลับแล้วนะ ถ้าดื่มคาเฟอีนจะนอนไม่หลับจนกว่าจะหมดฤทธิ์ของคาเฟอีน แต่พอหมดฤทธิ์คาเฟอีนก็สลบเหมือนแบตหมดเลย มันล้า มันเพลียไปเลย

1 ซองใหญ่ข้างในจะมี 5 ซองย่อย
เราเคยมีอาการวูบ นอนไม่หลับ ปวดหัว อ่อนเพลีย ปวดกล้ามเนื้อ อาการเหล่านี้อาจจะเกิดจากออกซิเจนในกระแสเลือดไม่เพียงพอ เป็นอีกสาเหตุที่เราเองก็คาดไม่ถึง
เราเคยไปปฏิบัติธรรมหลวงพ่อท่านให้เราฝึกหายใจ แล้วบอกว่าอาการที่เราเป็นอยู่จะค่อยๆ หายไป นั่นเพราะเรายังหายใจไม่ถูกวิธีนั่นเอง เราว่ามันคงเป็นตรรกะเดียวกัน
แต่การทานวิตามินไม่มีผลต่อการรักษาโรคนะ เอาจริงๆ เรื่องสุขภาพไว้ใจหมอเถอะค่ะ แต่ถ้าต้องการตัวช่วยแบบด่วนๆ ลองหาอาหารเสริมดีดี ช่วยเสริมในส่วนที่ร่างกายต้องการมากเป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงพวกคาเฟอีนดีกว่า ( คหสต.นะ ) ถ้ารู้สึกมีอาการผิดปกติทางร่างกาย หรือรู้สึกว่าป่วยให้รีบไปพบแพทย์เลยค่ะดีที่สุด
ยังไงการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายเป็นประจำ ( ถูกวิธี ) และพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งที่จำเป็นและสำคัญที่สุด

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดสุขภาพ)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe