วิธีดูแลผิว แบบสาวเกาหลี ไม่ต้องผิวดีแต่กำเนิดก็สวยได้!

เห็นผู้หญิงเกาหลีคนไหนๆ ก็เจอแต่คนผิวดีทั้งนั้นเลย ทั้งเนียน ใส ละเอียด แบบนี้ ต้องเป็นเอกลักษณ์ทางเผ่าพันธ์ที่ถ่ายทอดกันมาแน่ๆ  ไอ้คนอยากจะมีผิวสวยๆ แบบนั้นบ้าง อย่างเราก็คงได้แต่หวังงั้นเหรอ ?!? ใครที่กำลังคิดแบบนี้อยู่ ขอให้เลิกคิดก่อนนะจ๊ะ  เพราะว่าการที่เราจะมีผิวสวยแบบนั้นน่ะ สามารถสร้างได้ ทำได้ด้วยตัวเองนี่แหละ   เพียงแต่ต้องทำให้ถูกหลักแค่นั้นเอง  แล้วสาวเกาหลีเขามีเคล็ดลับความงามอะไรกันนะ ถึงได้มีผิวสวยแบบนี้ได้ ?!

ข้อแตกต่างของชาวเกาหลีก็คือ เด็กๆ จะถูกสอนให้รู้จักวิธีดูแลผิวตัวเองในแต่ละวันตั้งแต่ยังเล็กๆ  ด้วยการสอนให้รู้วิธีการใช้มอยซ์เจอไรเซอร์ เพื่อความชุ่มชื้นของผิว  การผลัดเซลล์ผิว และการปกป้องผิว ให้อ่อนเยาว์ และสอนให้เด็กเข้าใจว่า การมีระเบียบวินัยในการดูแลผิวนั้นสำคัญต่อสุขภาพผิวแค่ไหน    การที่เราให้การดูแลผิว ตั้งแต่เช้าจดเย็นด้วยความเอาใจใส่นั้น จะเพิ่มโอกาสให้ผิวมีสุขภาพดี และเสี่ยงต่อสิว ฝ้า กระ น้อยลง แถมยังช่วยทำให้ผิวกระจ่างใส   ยิ่งเรียนรู้ที่จะปกป้องผิวได้เร็วเท่าไหร่ ยิ่งมีผลดีต่อสุขภาพผิวในระยะยาวเท่านั้น   ถ้าใครเพิ่งรู้ก็ขอให้เริ่มดูแลผิวตั้งแต่ตอนนี้เลยนะจ๊ะ

การจะมีผิวที่ดีได้นั้น คุณต้องมั่นใจว่าทำความสะอาดผิวได้อย่างหมดจดแล้ว  และเพื่อความมั่นใจว่าผิวจะสะอาด สาวเกาหลีแนะนำให้เลือกใช้เทคนิค Double Cleansing คือการล้างหน้าสองรอบ  ขั้นตอนแรกให้ล้างหน้าด้วยเคล็นเซอร์ที่มีเนื้อเป็นน้ำมัน เพื่อขจัดล้างเครื่องสำอางและสิ่งตกค้างที่เป็นน้ำมันออกให้หมดก่อน  จากนั้นค่อยใช้เคล็นเซอร์เนื้อโฟม เพื่อทำการล้างคราบสกปรก จากมลภาวะต่างๆ ออกไป  

ที่ต้องทำอย่างนี้ก็เพราะว่า สิ่งสกปรกตกค้างมันมีหลายประเภทแตกต่างกัน เราจึงต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มันตรงจุด เพื่อขจัดออกไปให้ถูกวิธีด้วย  เหมือน " หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง "  สิ่งที่เป็นน้ำมันก็ต้องใช้น้ำมันขจัดออก  สิ่งที่เป็นน้ำ ก็ต้องใช้น้ำขจัดออกไป  แบบนี้จึงจะถือว่าล้างหน้าได้ครบขั้นตอนนะเอ้อ 

ก็เหมือนกับเรานี่แหละ  ผิวหนังเองก็หิวน้ำเช่นเดียวกับเรา  ฉะนั้นเป้าหมายหลักของการดูแลผิวฉบับเกาหลีจะเน้นการให้ความสดชื่นแก่ผิว ไม่ว่าจะด้วยการใช้สเปรย์น้ำแร่  และมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เชื่อกันว่าสามารถป้องกันริ้วรอยได้   ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเกาหลีส่วนใหญ่จึงมักจะเน้นการอัดวัตถุดิบที่มอบความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้นั่นเอง  

วิธีที่ดีที่จะทำให้ผิวชุ่มชื้นได้ก็คือการใช้แผ่นมาส์กโปะด้วย Essence  แล้วนำมาแปะหน้าสัก 20 - 30 นาที เพื่อให้ซึมซาบเข้าไปในผิวได้ และอีกวิธีคือการใช้ Sleeping Mask ตอนนอน ซึ่งชาวเกาหลีจะนิยม Sleeping Mask มากกว่า Night cream เพราะช่วงนี้จะเป็นการบำรุงผิว และปกป้องไม่ให้ผิวแห้งไปในตัว  และระหว่างวันเราอาจใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดเพื่อป้องกันผิวแห้งก็ได้เช่นกัน    

ถ้าคุณต้องการรักษาให้ผิวอ่อนกว่าวัย และเปล่งประกายแห่งความอ่อนเยาว์สดใสในเวลาเดียวกันแล้วล่ะก็ จำเป็นต้องใช้มอยซ์เจอไรเซอร์เป็นประจำ เน้นว่าเป็นประจำทุกวันด้วยนะ เพราะมอยซ์เจอไรเซอร์จะช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น และมีความอ่อนนุ่มอยู่ตลอดเวลา สำคัญมากๆ เลยเด้อ

ส่วนผสมที่ทรงพลังต่อผิวมากที่สุด ก็คือสิ่งที่ได้จากธรรมชาตินี่แหละ  ลองคิดดูสิ ขนาดผิวกายเรายังไม่ค่อยอยากจะใช้สารเคมีเลย  แล้วทำไมเราจะต้องใช้สารเคมีกับผิวหน้าด้วยล่ะเนอะ จริงมั้ย ? ฉะนั้นหากจะเลือกครีมมาใช้ล่ะก็ ให้ลองมองหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติเป็นสำคัญ  และผู้เชี่ยวชาญด้านความสวยงามจากเกาหลี ได้แนะนำผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ เมือกหอยทาก  ชาเขียว และยีสต์หมัก

ผิว มักจะโดนแสงแดดทำร้ายได้ง่ายๆ  ถึงแม้ว่าเราจะบำรุงรักษาผิวพรรณอย่างดีแค่ไหน  แต่ถ้าไม่ปกป้องผิวจากแสงแดด ก็จะทำให้ผิวเสียอยู่วันยังค่ำ   เพราะมลภาวะที่มาทำร้ายผิวส่วนใหญ่ก็มาจากแสงแดดทั้งนั้น  แค่โดนแดดยังร้อนเลย ร้อนไม่พอ แต่รังสีที่มากับแดดนี่คอยทำร้ายลึกถึงชั้นเซลล์ผิว  ทำให้ผิวแก่ เกิดฝ้ากระ และความหมองคล้ำอย่างร้ายแรงเลย  ฉะนั้นครีมกันแดดคือไอเทมสำคัญ ใครยังไม่มีต้องหาซื้อมาใช้ไว้สักอันนะจ๊ะ  ถ้าเป็นไปได้ ออกแดดก็กางร่มไปเลย  ไม่ต้องกลัวคนจะมองว่าเรายังงู้นยังงี้  ผิวเรา ถ้าเราไม่ดูแล แล้วใครจะดูแล เนอะ!