8 แบรนด์ 'น้ำหอมกลิ่นวานิลลา' หอมหวานน่าชิม อัพเสน่ห์เกินห้ามใจ #ผู้ต้องเข้ามาขอดม ❤

 

สวัสดีค่าาา สาวๆ SistaCafe ทุกคน (´ ε ` )♡

เสน่ห์อย่างหนึ่งของผู้หญิง นอกจากเสื้อผ้า เมคอัพ เส้นผมนุ่มสลวย ก็คือ ' กลิ่นกายหอมๆ ' นั่นเอง ซึ่งอาจจะมาจากกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่ม กลิ่นแชมพู สบู่หลังอาบน้ำ แต่กลิ่นเหล่านั้นก็มักจะอยู่ได้ไม่นานนัก ยิ่งเมืองร้อนอย่างประเทศไทยด้วยแล้ว Y^Y ถ้าใช้ตัวช่วยอย่าง ' น้ำหอม ' ไปเลย ก็น่าจะติดทนนานได้ทั้งวันมากกว่าเนอะ 

สำหรับใครที่เป็นสายหวาน ชอบกลิ่นแนวขนมๆ วันนี้เรามี 8 แบรนด์น้ำหอมกลิ่น ' วานิลลา ' หอมละมุนจนน่าชิม! มาแนะนำกัน แต่ละยี่ห้อก็จะมีจุดเด่นเฉพาะตัวแตกต่างกันไป แต่รับรองว่ามีความหวานของวานิลลา เพิ่มเสน่ห์เกินห้ามใจ ดึงดูดหนุ่มๆ ให้เข้าใกล้แน่นอน

*น้ำหอมส่วนใหญ่ในบทความนี้จะเป็น eau de parfum หรือหัวน้ำหอม ดังนั้นจะมีความเข้มข้นมาก ไม่เหมือน Body Spray, Body Mist หรือ Eau de Toilette ที่กลิ่นจะบางๆ ดังนั้นฉีดแค่ข้อพับที่ละครั้งก็พอค่ะ

*และเนื่องจากเป็นน้ำหอมแท้...ราคาอาจค่อนข้างสูง แต่ขวดนึงก็ใช้ได้นานอยู่น้า..หรือจะซื้อแบบ Sample ขวดเล็ก, จำกลิ่นไว้ แล้วไปซื้อแบรนด์อื่นที่เป็นกลิ่นแนวนี้ แต่เป็นโลชั่น หรือบอดี้สเปรย์ก็ได้ ราคาจะถูกลงมาเยอะเลย

มาเริ่มแบรนด์แรก ขวัญใจนักเรียน นักศึกษาอย่าง ' Bath & Body Works ' กับไลน์ ' Warm Vanilla Sugar ' ที่กลิ่นเหมือนวานิลลาอุ่นๆ ผสมน้ำตาลทรายแดง หอมหวานนุ่มๆ ละมุน ไม่ฉุน อารมณ์เหมือนกินขนม แล้วเศษขนมยังเปื้อนเสื้ออยู่ ใครได้กลิ่นก็อยากเข้าไปกอด ><

เบสหลักเป็นวานิลลา สักพักจะมีกลิ่นแป้งๆ เล็กน้อย ตามด้วยกลิ่นมะพร้าวและข้าว! ใช่ มีกลิ่นข้าวด้วยค่ะ แหวกแนวมาก ราคาก็ไม่แพงจนเกินไป นักศึกษาเอื้อมถึงได้ ฉีดไปเรียนก็ดูไม่เป็นผู้ใหญ่เกินไป ให้ฟีลสาววัยรุ่นหวานๆ เซ็กซี่นิดๆ

คุ้นหน้าคุ้นตากันดี กับแบรนด์เสื้อผ้าและน้ำหอมไฮเอนด์ ' Burberry ' ที่มีเอกลักษณ์เป็นลายปรินท์ตารางสก็อต กลิ่น ' Brit ' ถือเป็นกลิ่นยอดฮิตของแบรนด์ หอมเป็นเอกลักษณ์ ติดทนนานทั้งวัน แม้แต่อากาศร้อนในไทยยังเอาอยู่! แต่ใครที่ไม่ชอบกลิ่นวานิลลาเข้มข้น อาจบ่นว่าเลี่ยนได้

เบสหลักเป็นวานิลลากับอัลมอนด์ หอมหวาน เหมือนคุณหนูน่าทะนุถนอม มีกลิ่นฟรุตตี้จากเลมอนกับลูกแพร์หน่อยๆ ปลายกลิ่นจะตัดด้วยส้มซิตรัส ทำให้ไม่หวานทื่อจนเกินไป ให้ฟีลลิ่งสาวผู้ดี เรียบหรู และเซ็กซี่แบบดูแพง ถ้าอยากดูหวานสไตล์ผู้ใหญ่ ต้องลองกลิ่นนี้ค่ะ

มาต่อกับน้ำหอม ' Jo Malone ( โจ มาโลน ) ' ที่โดดเด่นในเรื่องกลิ่นหอมอ่อนๆ แบบผู้ดี เป็นธรรมชาติ แพ็กเกจเรียบๆ แต่หรูหรา และสามารถนำกลิ่นของแต่ละรุ่นมาผสมกัน เพื่อให้เกิดกลิ่นเฉพาะตัวของเราเองได้! #แบบนี้แหละที่น่าลอง แต่ข้อเสียคืออาจจะไม่ค่อยติดทน เพราะความเข้มข้นของแบรนด์นี้ ระดับโคโลญจน์เท่านั้นนะจ๊ะ ต้องขยันเติมนิดนึง

เบสของกลิ่นนี้จะเป็นวานิลลาที่ไม่หวานจนเลี่ยน เพราะตัดด้วยกลิ่น Arise หรือดอกโป๊ยกั๊กแบบสมุนไพรนิดๆ ทำให้กลิ่นจะออกแนวเครื่องเทศมากกว่าหวานจากน้ำตาล ให้ฟีลลิ่งหอมสบาย เรียบๆ เหมาะกับสาววัยทำงานที่ต้องการความน่าเชื่อถือ แต่ยังมีมุมหวานอยู่ 

แบรนด์ขวัญใจสาวๆ วัยรุ่น วัยทำงานอีกแล้วกับ ' Jill Stuart ( จิล สจ๊วต ) ' จุดเด่นคือแพ็กเกจสุดฟรุ้งฟริ้ง วิบวับ เหมือนอยู่ในเทพนิยาย นอกจากเครื่องสำอางแล้ว เขาก็ยังมีน้ำหอมขายด้วย! ซึ่งกลิ่น ' Vanilla Lust ' เคยดังสุดๆ ในญี่ปุ่นอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะครั้งแรกผลิตน้อย ทำให้ขายหมดในเวลาแค่ 3 วัน! //Limited Edition ที่แท้ทรู

เบสหลักเป็นวานิลลา น้ำตาลคาราเมล เจือมะพร้าวนิดๆ ได้กลิ่นหอมหวานอ่อนๆ ปลายกลิ่นตัดด้วยแป้งเด็ก ทำให้ยิ่งหอมแบบเซ็กซี่ซนๆ ขึ้นไปอีก แค่ฉีดก็เพิ่ม Sex Appeal ให้ตัวเองได้ทันที สมชื่อ ' Vanilla Lust ' หรือแรงปรารถนาจากวานิลลานั่นเอง เขิน >////<

แบรนด์นี้สาวๆ สายแฟชั่นทุกคนต้องรู้จัก ' Dolce & Gabbana ' ที่ทำเสื้อผ้า เครื่องประดับชิคๆ ในงานรันเวย์ต่างๆ มากมาย ซึ่งมีไลน์น้ำหอมด้วยเช่นกัน สำหรับกลิ่น ' 10 La Roue de La Fortune ' หรือภาษาฝรั่งเศสแปลว่า กงล้อแห่งโชคชะตา เหมาะสำหรับสาวเซ็กซี่ เย้ายวน แต่ยังดูแพง ด้วยความหวานจากวานิลลาค่ะ

กลิ่นเริ่มต้นจะเป็นสับปะรดผสมนม ล้อมด้วยกลิ่นฟลอรัลจากซ่อนกลิ่น การ์ดิเนียและมะลิ ผสานด้วยกลิ่นเครื่องเทศจากพริกไทยชมพู วานิลลา และพิมเสน ส่งท้ายด้วยกลิ่นแนวสโมกกี้ ใครชอบกลิ่นแนวซับซ้อน ดึงดูดเพศตรงข้าม กลิ่นนี้ใช่สำหรับเธอแน่นอน