[Travel series เที่ยวอีสานดีต่อใจ♥] "่เยือนสะเร็นเน้นเช็คอินกับ 9 สถานที่ดีดี้ Cool อีสาน"่ EP.3 สุรินทร์ ถิ่นละออคลัง!

PAGE 5/7
» »

นอกจากอาหาร ธรรมชาติ และวัฒนธรรมที่สวยงามแล้ว สุรินทร์ก็ยังมีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่ทุกคนควรค่าจะแวะมาชื่นชมนั่นก็คือ " ปราสาทศีขรภูมิ " ที่นี่เป็นปราสาทหินที่มีอายุหลายร้อยปี ใครที่เคยอยากจะไปสัมผัสความสวยงามของปราสาทนครวัดนครธมที่กัมพูชา มาที่ปราสาทศีขรภูมิก็ได้ฟีลคล้ายๆ กันเลยค่ะ เพราะมีลักษณะสถาปัตยกรรมผสมกันระหว่างขอมแบบบาปวนกับแบบนครวัดเช่นกัน

ปราสาทศีขรภูมิมีชื่อเดิมว่า ปราสาทระแงง อดีตเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดูที่บูชาพระศิวะ มีลักษณะเป็นปรางค์หมู่ 5 องค์ ตัวปราสาททำจากการก่ออิฐไม่สอปูน ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลง

ทุกปีช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายน จะมีการจัด “งานสืบสานตำนานพันปีปราสาทศีขรภูมิ” ณ บริเวณองค์ปราสาทศีขรภูมิ ไฮไลต์ของงานคือ การแสดงประกอบแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการ มีขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองจำลองวิถีชีวิตกลุ่มชุมชนชาว เขมร ลาว กุย และจีน รวมไปถึงมีพิธีบวงสรวงองค์ปราสาทศีขรภูมิ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว และเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของจังหวัดสุรินทร์

ชื่นชมความงามกับศิลปะขอมโบราณ แถมยังได้ภาพชิคๆ กลับบ้านอีกด้วย


มา ปราสาทศีขรภูมิ มีไฮไลท์อะไรให้ดูบ้าง ?

1. ภาพทับหลังหินแกะสลัก ถือว่ามีความสวยงามสมบูรณ์ที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย มีลักษณะเป็นภาพพระศิวะเต้นรำ หรือพระศิวะนาฏราชสิบกรอยู่บนหงษ์ 3 ตัว โดยมีความเชื่อว่าหากพระองค์เต้นรำด้วยความสวยงามโลกก็จะอยู่เย็นเป็นสุข แต่ถ้าเต้นรำด้วยจังหวะที่รุนแรงโลกก็จะปั่นป่วนวุ่นวาย

2. เสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสราถือดอกบัว และทวารบาลยืนกุมกระบอง มีลักษณะคล้ายนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด ถือเป็นอีกหนึ่งจุดไฮไลต์ของการมาเยี่ยมชมปราสาทศีขรภูมิ

ทับหลังหินแกะสลัก พระศิวะนาฏราชสิบกรอยู่บนหงษ์ 3 ตัว เหนือหน้ากาล ภายใต้วงโค้งลายท่อนมาลัย แกะสลักเป็นภาพพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และพระอุมา ซึ่งเป็นมเหสีของพระศิวะ

บริเวณเสากรอบประตูสลักเป็นรูปนางอัปสราถือดอกบัวมีลักษณะคล้ายนางอัปสราที่ปราสาทนครวัด

จบสวยๆ อีกหนึ่งรูปคอสตูมผ้าไทยของเราวันนี้ถือว่าเหมาะสม

 

8. สัมผัสผ้าไหมพื้นถิ่น " บ้านท่าสว่าง "

ที่สุรินทร์ก็มีภูมิปัญญาเรื่องการทอผ้าไม่เป็นรองใคร


" บ้านท่าสว่าง " มีชื่อเรียกในภาษาเขมรสุรินทร์ว่า บ้านโมเซราะเตรี้ยะ ชาวบ้านที่นี่มีภูมิปัญญาทอผ้าไหมที่สวยงามมาตั้งแต่อดีต และมีลายผ้าทอที่เป็นเอกลักษณ์อย่างลายอัมปรม และลายโฮล เป็นหนึ่งหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

เพื่อนๆ เดินทางมาเที่ยวที่บ้านท่าสว่างนอกจากจะมีตลาดต้องชมอย่างตลาดผ้าไหมให้เลือกซื้อกันตลอดสายแล้ว ก็ยังสามารถติดต่อขอเข้าไปชมวิธีการทอผ้าใหม่จากกลุ่มชาวบ้านได้อีกด้วยค่ะ นอกจากนั้นที่นี่เขาก็ยังมีผ้าไหมขึ้นชื่ออย่างการทอผ้ายกทองแบบโบราณ โดยการทอผ้าชนิดนี้ต้องใช้คนทอเป็นจำนวนมากและใช้เวลาในการทอหลายเดือนเลยทีเดียวค่ะ

ก่อนจะแวะเข้าไปดูวิธีการทอผ้าไหม เราก็ต้องใส่ผ้าบ้านท่าสว่างเพื่อความอินกับบรรยากาศกันก่อน

สร้างรายได้ในชุมชน ชาวบ้านมาร่วมกันทอผ้าไหมเป็นรายได้เสริม

เสื้อผ้าไทยอย่าต่อราคาคนขายเลย รู้ไหมกว่าจะได้สักผืนขั้นตอนล้านแปดงานฝีมือมากเวอร์

ชาวบ้านที่นี่ฝีมือทอผ้าว่าดีเยี่ยมแล้ว ทุกคนยังใจดีอีกด้วย มาเที่ยวหมู่บ้านท่าสว่างนอกจากจะได้ผ้าสวยๆ กลับบ้านก็ยังได้ภาษาถิ่นกลับไปพูดอีกเพียบ

ใครที่ไม่กล้าลองใส่ผ้าใส่ ที่นี่เขาก็มีสินค้าของฝากจากผ้าไทยอื่นๆ ให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับไปด้วยจ้า

 

9. เช็คอินคาเฟ่สุดคูลอย่าง " สนิม คาเฟ่ "

สนิม คาเฟ่ คือมีความดุ ความดิบ ความเท่ แบบครบเครื่องมากเวอร์

กิจกรรม SistaCafe