#ถ้าไม่แว่นจริงอยู่ไม่ได้ 6 ปัญหาที่มีแต่สาวแว่นอย่างเราๆ เท่านั้นที่เข้าใจ 🤓

 

จะมีใครเข้าใจเราไปกว่าการที่เราเข้าใจกันและกันได้ล่ะคะซิส ก็มีแต่สาวแว่นอย่างเราๆ เนี่ยแหละที่จะเข้าใจว่าปัญหาของเรามันคืออะไร เป็นปัญหาที่ไม่รู้จะบอกคนที่ไม่ใส่แว่นยังไง ซึ่งเรื่องบางเรื่องมันก็มีความพีคของมันอยู่ แต่วันนี้จะมาแชร์ 6 ปัญหาของสาวแว่นอย่างเราๆ ที่บอกเลยว่าถ้าไม่แว่นจริงอยู่ไม่ได้!

เวลาที่เจออากาศเปลี่ยนเข้าหน่อย จากเย็นไปร้อน สาวแว่นอย่างเราเป็นอันต้องหมอกลงทุกที.. ซิสที่เดินทางด้วย BTS น่าจะเจอปัญหานี่บ่อยใช่มั้ยคะ ( พอๆ กับการกินของร้อนแล้วเป็นฝ้าเลย ) เวลาลงรถมาเนี่ย ฝ้าขึ้นยังกับหมอกมาลง เบลอซะ! แทบจะมองอะไรไม่เห็น แถมต้องมาคอยระวังไม่ให้เดินไปชนคนอื่นอีก

ไปดูหนัง 3D ทั้งที จะให้สนุกอย่างคนอื่นเขาก็ลำบ๊าก ลำบาก ซื้อตั๋วมาราคาตั๋วก็ต้องแพง แต่สาวแว่นอย่างเราๆ จะดูให้ชัดก็ต้องใส่แว่นทับ ( เป็นการใส่แว่นแบบซ้ำซ้อนไปอีก ) แถมจะดูก็ไม่เต็มตา ติดกรอบแว่นอีก จะถอดดูก็ไม่ได้ มองไม่ชัด เห้อ.. เกิดเป็นสายตาสั้นนี่มันลำบากจริงๆ

จะไปว่ายน้ำคงไม่มีใครไม่ถอดแว่นตาเล่นน้ำหรอกใช่มั้ยคะ ใครๆ เขาก็ถอดแว่นเล่นกันทั้งนั้น แต่ความรู้สึกของสาวแว่นอย่างเรา คือมองอะไรไม่เห็นเลย ภาพมันเบลอไปหมด ( ก็เหมือนถอดแว่นเดินนั่นแหละ ) แต่ถ้าจะใส่แว่นเล่นน้ำก็ไม่ได้ช่วยให้มองเห็นขึ้น เพราะหยดน้ำก็จะไปเกาะที่เลนส์แว่น ก็เลยต้องเล่นน้ำแบบเบลอๆ ไปเนี่ยแหละ

กำลังนอนดูหนังหรือเล่นโทรศัพท์เพลินๆ พอจะนอนตะแคงข้างเข้าหน่อย ก็ต้องติดขาแว่นทุกที ใครไม่ได้ใส่แว่นแบบเราไม่มีทางเข้าใจหรอก ว่าการอยากนอนเล่นโทรศัพท์หรือดูหนัง แล้วมีแว่นมาติดตรงหน้านี่มันเป็นยังไง ก็มีแต่พวกเราสาวแว่นเนี่ยแหละที่เข้าใจกันเอง

ซิสคนไหนเคยลืมแว่นบ้างคะ ถ้าวันไหนเราลืมแว่นจะกลายเป็นคนหยิ่งในสายตาคนอื่นทันที จริงๆ คือไม่ได้ตั้งใจจะหยิ่งเลยนะ แค่มองไม่เห็นเท่านั้นเองอะ เวลาใครเดินผ่านแล้วยิ้มให้ ถ้าใส่แว่นจะมองเห็นไง แต่ถ้าไม่ได้ใส่แล้วมีคนเดินผ่านแล้วยิ้มให้นะ มองไม่เห็นจ้า กลายเป็นคนหยิ่งแบบไม่รู้ตัวทันที