ถ้าไม่หยุดทำตาม 5 ข้อนี้ ก็เตรียมเป็นโสดได้เลยนาจา

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1 # คาดหวังสิ่งที่ตัวเองต้องได้รับ
2 # ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
3 # อยากถูก มากกว่าสุข
4 # เพิกเฉยปัญหาสำคัญ
5 # เชื่อใจตัวเองมากเกินไป
ก็เพราะความรักมันไม่ได้มีแค่ด้านเดียว อุปสรรค์ที่จะทำให้เลิกกันก็ไม่ใช่มือที่สามเพียงอย่างเดียว ยังมีหลายสิ่งที่มากกว่านั้น เผลอๆ เป็นสิ่งที่เราเผลอทำออกมาโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ความรักของคุณนั้นมีปัญหาด้วยตัวเองล้วนๆ อีกต่างหาก ถ้าไม่อยากให้รักดิ่งเหวมากไปกว่านี้...
มาดู! 5 สิ่งลับๆ ที่สะกิดความรักให้ดิ่งลง ที่คิดว่าเราทำดีแล้ว อาจจะเป็นสาเหตุของปัญหาก็ได้ เช็คให้ชัวร์ เรามีตามนี้หรือไม่ ถ้าหากว่ามีล่ะก็ หยุดด่วนๆ ก่อนที่จะสายเกินไปนะคะ
1 # คาดหวังสิ่งที่ตัวเองต้องได้รับ
เป็นเรื่องปกติที่คนเราเมื่อมีความรักแล้ว ก็มักจะมีความปรารถนาถึงความรักและการยอมรับ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่ความต้องการนั้น เปลี่ยนเป็นความคาดหวัง ความผิดหวังและการเรียกร้องก็จะตามมา ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่มีใครที่สามารถรักเราในแบบที่เราอยากให้รักได้ เพราะคนเราแต่ละคนต่างก็รักกันและกันโดยยึดจากความเข้าใจกัน ผลที่ตามมาก็คือ เขาก็จะทำในแบบที่เขาเข้าใจคุณที่สุด ตามความรู้สึกของเขาเองนั่นแหละ
ถ้าหากคุณมีความคาดหวังว่าอยากให้เขาแสดงความรักมาในรูปแบบไหน แต่ที่แฟนทำไม่ใช่ ก็เลยเกิดความกลัวว่า แฟนไม่ได้เข้าใจอะไรเราเลย นั่นคือ คุณไม่ได้เข้าใจความรักซักนิด แถมยังกำลัง สร้างระเบิดเวลาที่จะนับถอยหลังการแตกหักกันด้วยตัวเองอีกต่างหากนะ
2 # ยึดติดอยู่กับสิ่งที่ผ่านมาแล้ว
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ทั้งคุณและแฟนนั้น เกิดมาในครอบครัวที่ต่างกัน พ่อแม่คนละคน เพื่อนคนละคน ประสบการณ์ตอนเด็กไม่เหมือนกัน และอีกมากมาย ที่หล่อหลอมให้ออกมาเป็นคุณทั้งคู่ ทุกอย่างไม่ได้เหมือนกันเป๊ะ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ไม่มีทางที่คุณทั้งคู่จะมีความคิดแบบเดียวกัน และนั่นก็ส่งผลให้วิธีปฏิบัติและเทคแคร์กันต่างกันไปด้วย แทนที่จะเถียงกันให้ได้ดั่งใจ ให้คุณทั้งคู่คุยกันดีๆ หาจุดตรงกลาง ที่สามารถอยู่ร่วมกันได้จะดีกว่า ไม่ต้องไปสนใจอดีตที่ผ่านมา เพราะตอนนี้มันคือปัจจุบัน
3 # อยากถูก มากกว่าสุข
หนึ่งในปัญหาความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ ความต้องการเอาชนะ ซึ่งจะนำมาสู่การทะเลาะกันแบบรุนแรง ความไม่ไว้ใจกัน และสร้างความขัดแย้งในความสำคัญได้ แถมยังส่งผลกระทบแย่ๆ ต่อการสื่อสารและการตั้งเป้าหมายร่วมกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเรื่องการมีลูก ปัญหาการเงิน ปัญหาสุขภาพ รวมถึงการทำการบ้าน ก็จะทำให้ไม่มีทางตกลงกันได้ด้วยดี ทีนี้พอรู้ยังว่าจะมีอะไรตามมา?
สมมุติว่ามีการทะเลาะกันเกิดขึ้น แล้วคุณพยายามอย่างยิ่งที่จะโต้เถียงเพื่อพิสูจน์ว่าที่คุณพูดน่ะถูก คุณอาจจะชนะได้ก็จริง แต่มันก็ทำให้คู่รักของคุณรู้สึกแย่ เหมือนโดนดูถูก รู้สึกไร้ค่า รู้สึกว่าคุณไม่ได้รักเขาจริง และทำให้เขามองคุณไม่เหมือนเดิม รักกันไม่เต็มร้อยมากขึ้น
ถ้าหากเกิดปัญหานั้นขึ้น สิ่งที่คุณควรเปลี่ยนคือ คุณควรจะสนใจในความคิดทัศนคติของเขามากกว่านี้ โชว์ให้เขาเห็นว่าคุณแคร์เขามากแค่ไหน ระหว่างความชนะกับแฟนคุณจะเลือกอะไร ยอมแพ้บ้างเป็นบางครั้ง เพื่อแลกกับความรักที่ยาวนานขึ้น ยังไงก็คุ้ม
4 # เพิกเฉยปัญหาสำคัญ
หลายๆ คู่พอมีปัญหาเกิดขึ้นในความสัมพันธ์แล้ว แทนที่จะมาคุยกันให้เข้าใจ กลับเพิกเฉยทำเป็นไม่เห็น เหมือนฝังไว้ในดินหรือเตะขยะเข้าใต้พรม เนื่องจากไม่มีเวลาว่างมากเท่าไหร่ เอะอะก็ว่างานเยอะงานแยะ จนไม่มีอารมณ์จะคุยกัน ซึ่งการกระทำแบบนี้มันเหมือนกับว่าเราได้กวาดฝุ่นเล็กๆ ไปใต้พรมเรื่อยๆ จนนานวันเข้า ฝุ่นที่เคยเล็กๆ นั้น ได้รวมกันเป็นก้อนใหญ่ ที่นอกจากจะเก็บไม่มิดแล้ว ก็ยังยากที่จะกำจัดทิ้งอีกต่างหาก
การเก็บปัญหาไว้ก็เหมือนกับผลัดวันทุกข์ออกไปเรื่อยๆ ทางที่ดีเราควรกล้าที่จะยอมรับปัญหานั้น แล้วนำมาคุยกันหาทางแก้ไขเนิ่นๆ จะดีกว่า ถึงจะต้องกวาดฝุ่นทิ้งทุกๆ วัน ก็ยังดีกว่าสะสมฝุ่นไว้จนต้องย้ายบ้านหนีนะ คุณคงไม่อยากเปลี่ยนแฟนไปเรื่อยๆ ใช่มั้ยคะ?
5 # เชื่อใจตัวเองมากเกินไป

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความรัก)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe