ผิวยิ่งอ่อนแอ ยิ่งต้องดูแลให้พิถีพิถันมากขึ้น มาลองดูวิธีดูแลผิวอย่างอ่อนโยนกันดีกว่าค่ะ

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1 # ล้างผิวจากภายใน
2 # ค่อยๆ แตะสกินแคร์ให้ซึมเข้าหน้า
3 # เลือกโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน
4 # ล้างเมคอัพที่ตา เน้นอ่อนโยนพิเศษ
5 # ขัดผิวยิ่งต้องระวัง
พูดถึงเรื่องความสวยงาม สิ่งที่สาวๆ หวงแหนมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเรื่อง 'ผิว' การมีผิวเนียนละเอียด สวยแม้ไม่ต้องพึ่งเมคอัพ เป็นอะไรที่สวรรค์บันดาลมาให้มากๆ และนั่นก็หมายความว่า คุณจะต้องมีการดูแลที่พิถีพิถัน เพื่อที่จะได้มาซึ่งผิวเพอร์เฟกต์ที่ไร้ปัญหาสิว ผดผื่น ริ้วรอย และรูขุมขนที่กว้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่สาวๆ คงจะกลัวเกรงกันมากทีเดียว
โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่เห็นได้ชัด และยังมีบางส่วนที่บอบบางกว่าผิวหนังส่วนอื่น ยิ่งผิวประเภทแพ้ง่ายด้วยแล้วเนี่ย ถ้าเราดูแลแบบขอไปที เห็นทียังห่างไกลกับผิวสวยอีกเยอะเลย ใครที่ไม่อยากต้องมานั่งกังวลปัญหาผิวทีหลัง มาดูทริคการดูแลผิวอย่างอ่อนโยนภายใน 5 ข้อนี้กันดีกว่าค่ะ
โดยเฉพาะบริเวณใบหน้าเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสนใจกันอย่างมาก เนื่องจากเป็นบริเวณที่เห็นได้ชัด และยังมีบางส่วนที่บอบบางกว่าผิวหนังส่วนอื่น ยิ่งผิวประเภทแพ้ง่ายด้วยแล้วเนี่ย ถ้าเราดูแลแบบขอไปที เห็นทียังห่างไกลกับผิวสวยอีกเยอะเลย ใครที่ไม่อยากต้องมานั่งกังวลปัญหาผิวทีหลัง มาดูทริคการดูแลผิวอย่างอ่อนโยนภายใน 5 ข้อนี้กันดีกว่าค่ะ
1 # ล้างผิวจากภายใน
ในแต่ละวัน เราต้องพบเจอกับมลภาวะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง หรือว่าเครื่องสำอางที่เราประโคมในแต่ละวัน รวมถึงการทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ล้วนก็ส่งผลออกมาให้ปรกฏให้เห็นได้ชัดยันภายนอก ผ่านผิวของเรานั่นเอง ซึ่งการที่เราปล่อยไว้ให้มันสะสมเรื่อยๆ คงไม่ใช่เรื่องดีแน่
ถ้าเป็นไปได้ การปล่อยให้ผิวได้พักจากเครื่องสำอางบ้าง จะช่วยได้มากเลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องแต่งทุกวันยันเสาร์อาทิตย์ การประโคมเมคอัพทำให้เราผิวสวยชั่วคราว แต่อาจทำให้ผิวเสียถาวรได้ ฉะนั้น เว้นไว้บ้างก็ดีค่ะ นอกจากนี้แล้วการชำระล้างผิวหน้า นอกจากจะล้างผิวภายนอกด้วยน้ำหรือโฟมธรรมดาแล้ว สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญที่มากกว่าก็คือ การชำระล้างจากภายใน อย่างการดีทอกซ์ผิว เราควรจะวางตารางให้ผิวได้รับการดีทอกซ์ในแต่ละสัปดาห์เป็นประจำ สาวๆ สามารถดูวิธีดีทอกซ์ผิวได้ที่บทความนี้ค่ะ
ถ้าเป็นไปได้ การปล่อยให้ผิวได้พักจากเครื่องสำอางบ้าง จะช่วยได้มากเลยทีเดียว ไม่จำเป็นต้องแต่งทุกวันยันเสาร์อาทิตย์ การประโคมเมคอัพทำให้เราผิวสวยชั่วคราว แต่อาจทำให้ผิวเสียถาวรได้ ฉะนั้น เว้นไว้บ้างก็ดีค่ะ นอกจากนี้แล้วการชำระล้างผิวหน้า นอกจากจะล้างผิวภายนอกด้วยน้ำหรือโฟมธรรมดาแล้ว สิ่งที่เราควรให้ความสำคัญที่มากกว่าก็คือ การชำระล้างจากภายใน อย่างการดีทอกซ์ผิว เราควรจะวางตารางให้ผิวได้รับการดีทอกซ์ในแต่ละสัปดาห์เป็นประจำ สาวๆ สามารถดูวิธีดีทอกซ์ผิวได้ที่บทความนี้ค่ะ
2 # ค่อยๆ แตะสกินแคร์ให้ซึมเข้าหน้า
ผู้หญิงส่วนใหญ๋แล้ว มักจะมีกิจวัตรประจำวันเพิ่มขึ้นมาจากผู้ชาย นั่นก็คือการทำสกินแคร์ ซึ่งเชื่อว่าเหล่าครีมแพงๆ ที่เราซื้อมานั้น จะทำให้เรามีผิวที่สวยเพอร์เฟกต์ได้ แต่จริงๆ แล้วนั้นมันก็มีกฎของมันอยู่ ถ้าหากเราทาสกินแคร์ผิดวิธี นอกจากจะไม่ช่วยให้ผิวสวยขึ้นได้แล้ว ก็ยังมีส่วนเร่งให้ผิวแย่ลงอีกต่างหากนะ
วิธีการทาสกินแคร์ที่ถูกก็คือ ห้ามนวดหรือถูผิวหน้าแรงๆ ถึงแม้ว่าในมือเราจะมีครีมอยู่ มันก็ไม่ได้ช่วยให้รบกวนผิวน้อยลงเลย ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวก่อนวัย ให้เราค่อยๆ ใช้นิ้วนางและกลางแตะๆๆ ไปทั่วผิวหน้า จะให้ดีก่อนทาควรจะนวดมือให้อุ่นๆ ก่อน เมื่อทาเสร็จแล้ว ให้ใช้มืออังหน้าในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้เซรั่ม หรือครีมที่เราทานั้น ซึมลงไปในผิวได้อย่างเต็มที่ แล้วค่อยทาสกินแคร์ชิ้นต่อไป วิธีนี้จะช่วยให้ครีมแพงๆ ที่เราซื้อมานั้น สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
วิธีการทาสกินแคร์ที่ถูกก็คือ ห้ามนวดหรือถูผิวหน้าแรงๆ ถึงแม้ว่าในมือเราจะมีครีมอยู่ มันก็ไม่ได้ช่วยให้รบกวนผิวน้อยลงเลย ถ้าไม่อยากหน้าเหี่ยวก่อนวัย ให้เราค่อยๆ ใช้นิ้วนางและกลางแตะๆๆ ไปทั่วผิวหน้า จะให้ดีก่อนทาควรจะนวดมือให้อุ่นๆ ก่อน เมื่อทาเสร็จแล้ว ให้ใช้มืออังหน้าในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้เซรั่ม หรือครีมที่เราทานั้น ซึมลงไปในผิวได้อย่างเต็มที่ แล้วค่อยทาสกินแคร์ชิ้นต่อไป วิธีนี้จะช่วยให้ครีมแพงๆ ที่เราซื้อมานั้น สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นค่ะ
3 # เลือกโฟมล้างหน้าที่อ่อนโยน
ขั้นตอนที่สำคัญอีกขั้นตอนหนึ่งที่ส่งผลต่อสภาพผิวหน้าของเราได้ นั่นก็คือขั้นตอนการล้างหน้า ซึ่งอุปกรณ์ก็คือ Cleanser หรือที่เราเรียกกันว่าโฟมล้างหน้านี่แหละ การเลือกโฟมไม่จำเป็นต้องเลือกสูตรที่เน้นว่ามอยซ์เจอร์ เนื่องจากว่าในสูตรพวกนี้มักจะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นตัวช่วยให้ผิวรู้สึกไม่แห้งตึงหลังล้างเสร็จ ซึ่งนั่นก็ไม่เป็นผลดีเท่าไร พยายามให้เลือกโฟมล้างหน้าที่มีเบสเป็นน้ำจะดีกว่าค่ะ
ในการล้างหน้า ก่อนอื่นให้เราบีบโฟมมาประมาณเม็ดข้าวโพด แล้วผสมน้ำหยดลงไป ถูจนเกิดฟองที่มือก่อน เพื่อไม่ให้หน้าเสียดสีกับมือโดยตรง ยิ่งฟองเยอะ ก็จะยิ่งล้างหน้าได้อ่อนโยนมากขึ้น ที่สำคัญให้งดพวกโฟมที่มีเม็ดบีดส์อยู่ด้วย เพราะนั่นจะทำให้ผิวของคุณโดนรบกวนอย่างรุนแรงได้
ในการล้างหน้า ก่อนอื่นให้เราบีบโฟมมาประมาณเม็ดข้าวโพด แล้วผสมน้ำหยดลงไป ถูจนเกิดฟองที่มือก่อน เพื่อไม่ให้หน้าเสียดสีกับมือโดยตรง ยิ่งฟองเยอะ ก็จะยิ่งล้างหน้าได้อ่อนโยนมากขึ้น ที่สำคัญให้งดพวกโฟมที่มีเม็ดบีดส์อยู่ด้วย เพราะนั่นจะทำให้ผิวของคุณโดนรบกวนอย่างรุนแรงได้
4 # ล้างเมคอัพที่ตา เน้นอ่อนโยนพิเศษ
ไม่ว่าเราจะเหนื่อยแค่ไหน จะเดินทางมาอย่างยากลำบากอย่างไร ต้องผจญกับคนเยอะบนรถไฟฟ้า เผชิญหน้ากับรถติด จนคิดว่ากลับถึงห้องปุ๊ป จะล้มตัวลงนอนเลย ก็ขอให้หยุดไว้แค่การคิดจะดีกว่า เพราะถึงแม้ว่าคุณจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ห้ามข้ามขั้นตอนการล้างเครื่องสำอางออกไปอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าคุณปล่อยเมคอัพไว้ก่อนนอน เท่ากับว่า หน้าของคุณจะแก่เร็วขึ้นไปอีก 1 วัน
โดยเฉพาะการล้างดวงตา ถ้าปล่อยเมคอัพทิ้งไว้รับรองว่าริ้วรอยถามหาแน่ๆ แต่ถ้ารีบๆ เช็ดให้ออก ริ้วรอยก็จะยิ่งเรียกพวกให้มาด้วยเข้าไปใหญ่ จำไว้ว่าถึงจะรีบแค่ไหน แต่ดวงตาต้องอ่อนโยน การที่เราเช็ดแรงๆ จะทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาได้รับการเสียดสีอย่างแรง และจะคืนความชุ่มชื้นได้ ต้องรอไปอีกหลายวันเลยทีเดียว ฉะนั้น ให้เราใช้ Makeup Remover สำหรับเช็ดตาโดยเฉพาะ หยดใส่สำลีให้ชุ่ม วางค้างไว้บนเปลือกตาประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยๆ เช็ดออก วิธีนี้จะช่วยลดการเสียดสีได้กว่าเดิมเยอะ!
โดยเฉพาะการล้างดวงตา ถ้าปล่อยเมคอัพทิ้งไว้รับรองว่าริ้วรอยถามหาแน่ๆ แต่ถ้ารีบๆ เช็ดให้ออก ริ้วรอยก็จะยิ่งเรียกพวกให้มาด้วยเข้าไปใหญ่ จำไว้ว่าถึงจะรีบแค่ไหน แต่ดวงตาต้องอ่อนโยน การที่เราเช็ดแรงๆ จะทำให้ผิวบริเวณรอบดวงตาได้รับการเสียดสีอย่างแรง และจะคืนความชุ่มชื้นได้ ต้องรอไปอีกหลายวันเลยทีเดียว ฉะนั้น ให้เราใช้ Makeup Remover สำหรับเช็ดตาโดยเฉพาะ หยดใส่สำลีให้ชุ่ม วางค้างไว้บนเปลือกตาประมาณ 30 วินาที แล้วค่อยๆ เช็ดออก วิธีนี้จะช่วยลดการเสียดสีได้กว่าเดิมเยอะ!
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe