ช่วงความรู้กับซิส! กับ ' 5 กฎเหล็ก ' ธรรมเนียมงานแต่งของราชวงศ์อังกฤษ ที่ดยุกและดัชเชสขอฉีก

สวัสดีสาวซิส SistaCafe ทุกคนนะคะ!!

ในตอนนี้คงไม่มีเรื่องไหนฮอตเท่า ' การแต่งงานของเจ้าชายแฮร์รี และ เมแกน ' อีกแล้วค่ะซิสสส !!! เพราะนี่ถือเป็นอีเว้นท์ระดับโลกเลยก็ว่าได้ที่ใคร ๆ ต่างก็ให้ความสนใจ ซึ่งถ้าจะให้พูดตามความรู้สึกแล้วเมื่อได้ชื่อว่าเป็น ' ผู้ดีอังกฤษ ' แล้วรับรองเลยว่าในส่วนของพิธีการต่าง ๆ ก็จะมีทั้งธรรมเนียมและกฎข้อปฏิบัติที่ต้องทำต่อ ๆ กันมา แต่ใครจะไปรู้ว่า การแต่งงานครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งไหน ๆ เพราะทั้งดยุกและดัชเชสขอสร้างความต่างฉีก ( เกือบ ) ทุกกฎจ้าา!! 

ซึ่งหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้การแต่งครั้งนี้ฉีกไปจากแบบเดิม ๆ ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะ ' เมแกน ' ที่ตอนนี้เธอได้รับฉายา ' สตรีผู้นำการเปลี่ยนแปลงมาสู่ราชวงศ์อังกฤษ ' ไปแล้ว!! และเธอก็พิสูจน์ด้วยการทำให้ Make it Happen เกิดขึ้นมาได้จริง ๆ และตัวอย่างชัด ๆ อย่างแรกที่เห็นได้เลยนั้นก็คือ...ความลับดีเทลที่ซ่อนอยู่ในงานแต่งของเธอและเจ้าชายแฮร์รี่นั้นเองจ้าา

ตามกฎธรรมเนียมดั้งเดิมฉบับเมืองผู้ดีแล้ว คำพูดที่ว่า "หญิงสูงศักดิ์ผู้ควรคู่กับราชวงศ์อังกฤษ" ดูจะเป็นอะไรที่จะต้องทำตาม แต่พอหันกลับมาดูดัชเชสคนใหม่อย่าง เมแกน แล้วดูเหมือนจะเป็นการลบล้างกฎดั่งเดิมข้อนี้ไปเลย เพราะเธอไม่แม้แต่จะมีเชื้อสายอังกฤษอยู่ในตัวด้วยซ้ำ

งั้นเราตามมาดูประวัติย่อ ๆ ขอเธอกันดีกว่านะคะซิสส...เมแกน มาร์เคิล เธอคือคนอเมริกัน ลูกครึ่งคนขาวกับชาวผิวสี และเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่งก่อนจะหย่าไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว แถมยังเป็นนักแสดงและนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสตรีอีกตั้งหาก ซึ่งสำหรับคนในราชวงศ์แล้ว การเป็นนักแสดง หรือ การยุ่งเกี่ยวกับการเมือง เป็นเรื่องต้องห้ามเลยทีเดียว

ไม่เคยมีเจ้าหญิงองค์ไหนในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ผู้ดีอังกฤษ

เคยทำแบบนี้มาก่อน 

!!!

เธอเลือกที่จะทำ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเจ้าสาวจะต้องเดินไปมาเจ้าบ่าวโดยมีคนนำส่ง แต่ในช่วงแรกของการเดินเข้าพิธี “เมแกน” เธอเลือกที่จะเดินเข้าไปคนเดียวก่อน โดยมีนักบวชเดินนำ 1 รูป พร้อมด้วยกลุ่มเพื่อนเจ้าสาวและเด็กชายเดินตาม จากนั้นเธอจะเดินไปที่จุดเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ยืนรออยู่ ( ทำหน้าที่ในการส่งตัวเจ้าสาวแทนพ่อแท้ ๆ ของเธอที่กำลังผ่าตัดอยู่ ) แล้วค่อยเดินตามทางเดินไปยังแท่นบูชาพร้อมกัน อันนี้เป็นแค่ดอกแรกเท่านั้น!!!

มาถึงดอกที่ 2 เธอไม่ได้ให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ส่งมือของเธอให้เจ้าบ่าวตามธรรมเนียม แต่เธอเลือกที่จะเดินเข้าไปหาเจ้าบ่าวเองจ้า!!! ซึ่งนี่เป็นการแสดงจุดยืนของเธอในฐานะ feminist ที่จะสื่อว่า...ผู้หญิงนั้นเป็นเพศที่เข้มแข็ง และสามารถเป็นคนเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองเองได้ ( คูลสุด ๆ เธอคือมายไอดอลจริง ๆ )

อีกหนึ่งธรรมเนียมที่ทำตามกันมาเรื่อย ๆ เลยนั้นก็คือ ' การใส่ชุดแต่งงานที่เป็นผลงานของคนอังกฤษล้วน ๆ ทั้งดีไซเนอร์และห้องเสื้ออังกฤษ ' ซึ่งก่อนหน้าวันพิธีหลายคนก็ต่างคาดเดาว่าเธอน่าจะเป็นของแบรนด์นู้น ห้องเสื้อนี้...แต่ระดับ ' เมแกน ' แล้ว มีเหรอที่เธอจะใส่ตามที่คนอื่นเค้าคาดหมายกันไว้ !!


ก็เป็นอีกหนึ่งการฉีกกฎเกณฑ์ทั้งหมดทั้งมวล แต่ที่เธอทำแบบนี้ก็มีนัยยะซ้อนอยู่เหมือนกัน เพราะเธอต้องการจะสื่อถึงความเป็นตัวเองมากที่สุด!! ซึ่งก็คือการ "ข้ามฝั่ง" จากดินแดนหนึ่งมาสู่อีกดินแดนหนึ่งหรือก็คือ การที่เธอเป็นชาวอเมริกันต่างด้าวย้ายเข้ามาอยู่ในราชวงศ์เมืองผู้ดีนั้นเอง
 

แม้แต่ ' เค้กแต่งงาน ' ทั้งดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ก็ไม่วายขอแหกกฎด้วยเหมือนกัน!!! ซึ่งตามธรรมเนียมเค้กแต่งงานของราชวงศ์ที่นิยมกินกันก็จะเป็น ' เค้กผลไม้ หรือที่เรียกว่า ฟรุตเค้ก ' แต่เค้กในครั้งนี้เป็น เค้กรสเลมอน และน้ำหวานดอกเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ตกแต่งด้วยครีมและดอกไม้สด ผลงานของ Claire Ptak เจ้าของร้านเบเกอรี่ Violet Cakes ในย่านแฮคนีย์ทางตะวันออกของกรุงลอนดอนนั้นเอง!!

มาถึงข้อสุดท้าย...สำหรับข้อนี้ซิสก็คงไม่ตกใจอะไรอีกแล้วหล่ะ เพราะหลายต่อลหายข้อที่ฉีกกฎราชวงศ์ยังสามารถทำได้ ทำไมกับเรื่องแค่เรื่อง ' ฤกษ์แต่งงาน ' จะฉีกไม่ได้!!! ซึ่งตามธรรมเนียมดั่งเดิมแล้ว...พิธีจะจัดขึ้นในวันธรรมดา หรือวันจันทร์ถึงศุกร์เท่านั้น!!! แต่ครั้งนี้ทั้งเจ้าชายแฮร์รี่และเมแกนกลับเลือกที่จะจัดพิธีกันในวันเสาร์แทน!! และจะเริ่มต้นกันในช่วงเที่ยงวันพอดี ในขณะที่ประเพณีดั้งเดิมจะเริ่มกันตอน 11 โมงนะจ๊ะ
 

แต่ถ้าจะให้พูดกันตรง ๆ แล้ว " คงไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการที่คนสองคนรักกัน และเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลือไปด้วยกัน " แล้วนะคะซิสส เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะต้องทำตามกฎหรือจะต้องฉีกกฎอีกเป็นร้อยข้อขอแค่ได้อยู่ด้วยกันแบบแฮปปี้ ชีวิตดี๊ดี จับมือ Grow Old Together แค่นี้ก็พอแล้วค่ะ และสำหรับซิสคนไหนที่ยังไม่มีคู่ และกำลังนึงอิจฉาคู่นี้อยู่ในใจ เราก็ขอให้ซิสเจอคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของซิสเร็ว ๆ นะคะ วันนี้เราก็คงต้องขอตัวลากันไปก่อน และสุดท้ายเราก็ขอทิ้งท้ายด้วยภาพบรรยากาศรวมถึงดารา - เซเลบที่ไปร่วมงานพิธีนะคะ บ๊ายบายยยย