Articles makeup
ความงาม

ใช้ด้วยกันท่าจะไม่สวย!⛔ รวม 4 สกินแคร์ nี่ห้ามจับคู่กันเด็ดขาด!! 😱

สกินแคร์ถ้าใช้ให้ดีหน้าก็สวย แต่บางตัวถ้าเผลอเอามาใช้ด้วยกันหน้าพังนะจ๊ะ!


» » - - » - - - - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • ใช้ด้วยกันแล้วพัง! รวม 4 สกินแคร์ ห้ามเอามาใช้คู่กันเด็ดขาด!

    • 1. RETINOL + AHAS/BHA

    • 2. RETINOL + BENZOYL PEROXIDE

    • 3. RETINOL + VITAMIN C

    • 4. NIACINAMIDE + VITAMIN C

     
    ขึ้นชื่อว่าสกินแคร์ ฟังยังไงมันก็ต้องดีต่อผิวอยู่แล้วจริงมะ ถ้าใช้ให้ถูกกับสภาพผิว ไม่มีส่วนผสมอะไรที่เราแพ้ รับรองว่ามีแต่จะทำให้หน้าเราสวย สวย สวย และสวยขึ้นเท่านั้น ( สวยพี่สวย! ) 
     
    และแน่นอนว่าปัญหาผิวที่สาวๆ มักให้ความสำคัญ และพยายามกำจัดทิ้ง ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องริ้วรอย และผิวหมองคล้ำ ฉะนั้นถ้ามีอะไรพอจะช่วยได้ ก็อยากจะใช้ ยิ่งเห็นผลเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ซึ่งหลายคนก็ไปรู้มาว่า เอ้อ ตัวนี้ช่วยเรื่องริ้วรอย เอ้อ ตัวนี้ช่วยเรื่องผิวใส งั้นก็เอามาใช้ด้วยกันเลยจะได้เห็นผลเร็วๆ

    ตืดๆ ! ( เสียงสัญญาณบอกว่าผิด ) ก็จริงอยู่ว่า ปกติเวลาเราใช้สกินแคร์ที่ละหลายๆ ตัวก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร ถ้าไม่แพ้ ซึ่งก็จริง แต่สกินแคร์บางตัวก็ใช่ว่าจะใช้ด้วยกันได้ไปซะหมดนี่นา ( ใช่มะ ไม่มีใครเคยบอกไว้นี่เน้อ ) ฉะนั้นจริงๆ แล้วสกินแคร์บางอย่าง ไม่สามารถใช้ด้วยกันได้ ถึงแม้ว่าตอนใช้เดี่ยวๆ จะดีแค่ไหน แต่ถ้าใช้ด้วยกันแล้วอาจทำหน้าคุณพังทันที

    อย่ารอให้หน้าพัง รีบไปเช็ค 4 สกินแคร์ ที่ห้ามใช้คู่กันเด็ดขาด ไม่งั้นหน้าจะพังก่อนสวย จะซวยเอานะ!

     

    ใช้ด้วยกันแล้วพัง! รวม 4 สกินแคร์ ห้ามเอามาใช้คู่กันเด็ดขาด!

     

    1. RETINOL + AHAS/BHA


    ถ้าใครเคยรู้มาว่าทั้งสองตัวนี้ล้วนเป็นประเภทสกินแคร์ที่ดีต่อเรื่องริ้วรอย คุณเข้าใจถูกต้องแล้ว เพราะ AHAs ( glycolic and lactic acid ) และ BHA ( salicylic acid ) ต่างก็ทรงพลังในแง่ของการผลัดเซลล์ผิวทั้งคู่

    ส่วน Retinol ( วิตามินเอในอีกรูปแบบหนึ่ง ) ก็มีความสามารถในการทำให้การหมุนเวียนของเซลล์ผิวเป็นไปอย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ( ถ้าจะให้พูดตามศัพท์แสงทางวิทยาศาสตร์ก็คือ เร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวธรรมชาติให้เร็วขึ้นนั่นแหละ  )และเพราะเหตุผลนี้นี่แหละ เราจึงไม่ควรเอามาจับคู่กันเด็ดขาด

    ส่วนผสมทั้งสองอย่างนี้ ต่างช่วยในเรื่องกำจัดเซลล์ผิวที่แก่แล้ว เซลล์ผิวที่หมองคล้ำ หรือเซลล์เสียหาย ให้ออกไปจากผิวของเรา และแทนที่ด้วยเซลล์ใหม่ที่สุขภาพดีกว่า และสดใสไฉไลกว่า

    ซึ่งถ้าใช้ทีละอย่าง แน่นอนว่ามันให้ประโยชน์ตามนั้นแหละ แต่ถ้าใช้ด้วยกันเมื่อไหร่ล่ะก็ ดูเหมือนจะช่วยทำให้ผิวเรากลายเป็นรอยแดง และระคายเคืองซะมากกว่า เอ้อ! แถมยังทำให้ผิวของเราไวต่อแดดมากขึ้นกว่าเดิมอีกต่างหากนะ

    การจับคู่ของสองตัวนี้ ช่วยอธิบายข้อเสียของความโลภได้ดีเลยนะเนี่ย

    วิธีแก้ไข : ใช้ทั้ง 2 ตัวนี้แยกกัน โดยอาจจะเว้นเวลากัน เว้นวันกัน หรือเว้นอาทิตย์ไปเลย อย่างเช่นใช้กรดไกลโคลิก ในตอนเช้า แล้วใช้เรตินอลในตอนกลางคืน หรือจะใช้กรดไกลโคลิกในวันจันทร์ แล้ววันอังคารค่อยใช้เรตินอล แบบนี้ก็ได้เช่นกัน
     

    2. RETINOL + BENZOYL PEROXIDE

    เรตินอลเจ้าเก่ามาอีกแล้ว ก็ช่วยไม่ได้ อยากเป็นสกินแคร์ที่สาวๆ ต้องการทำไมล่ะเนอะ แต่คุณรู้รึเปล่าว่า จริงๆ แล้วเรตินอล ที่สาวๆ คลั่งไคล้กันนั้น นอกจากจะช่วยเรื่องริ้วรอยแล้ว ยังสามารถรักษาสิวได้เช่นกัน

    ในขณะเดียวกัน  benzoyl peroxide ก็มีความสามารถในการลอกผิว เพื่อทำให้รูขุมขนไม่อุดตัน เพื่อประโยชน์ในการฆ่าแบคทีเรีย และนั่นแหละ ที่ทำให้สกินแคร์ตัวนี้สามารถรักษาสิวได้ 

    แต่ benzoyl peroxide ก็แรงด้วยตัวของมันเองอยู่แล้ว และนั่นแหละที่เป็นสาเหตุที่เจ้าตัวนี้ควรใช้กับสิวเท่านั้น

    แล้วคุณลองคิดดูสิว่ขนาด benzoyl peroxide ยังรุนแรงขนาดนั้น แล้วถ้าไปใช้คู่กับ Retinol จะรุนแรงขนาดไหน๊!? ผิวคุณจะลอกเป็นแผ่นๆ, ผิวเป็นรอยแดง และระคายเคืองด้วยนะ ต้องการผิวแบบนั้นจริงๆ เรอะ?


    วิธีแก้ไข:
    1. เลือกเอาอันไหนสักอัน!
    2. ถ้าคุณมีเพียงแค่สิวอันดื้อด้าน ก็เลือกใช้เพียงแค่ benzoyl peroxide ทาลงบนส่วนที่เป็นสิวอย่างเดียว ส่วนเรตินอล ก็ใช้ส่วนอื่นที่ไม่ใช่สิว แต่ทางที่ดีลองใช้ตัวเลือกอื่นอย่างsalicylic acid or sulfur ไว้ปราบสิวก่อนน่าจะดีกว่า
     

    3. RETINOL + VITAMIN C

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดความงาม)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe