มีคนมารักมาชอบมันก็ดีค่ะ แต่ถ้าเราไม่ได้รู้สึกกับเขาเหมือนที่เขารู้สึกกับเรา จงอย่าได้เผลอทำ 6 พฤติกรรมนี้ ให้เขาเข้าใจผิด ว่าเราก็ชอบเขา

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. อย่าอยู่ใกล้ชิดกันมาก
2. อย่าพูดอะไรให้เขาคิดไปไกล
3. ไม่ต้องแสดงความห่วงใยออกมามาก
4. แตะเนื้อต้องตัว หรือแสดงความสนิทสนมมากกว่าปกติ!
5. อยากคุย เพื่อให้เป็นที่ระบายความเหงา ทั้งที่ไม่จริงจัง
6. รักษาความสัมพันธ์ต่อไป เพียงเพราะรู้สึกสงสาร
7. หลอกขอความช่วยเหลือ เพราะรู้ว่าเขามีใจให้เรา
" ดั่งในใจความบอกในกวี ว่าตราบใดที่มีรักย่อมมีหวัง "
หลายคนคงจะรู้จักเพลง " กันและกัน " เป็นอย่างดี ข้อความข้อบนนั้นคือส่วนหนึ่งในเนื้อเพลงที่ทำให้เรานึกถึงหัวข้อที่กำลังจะบอกกันอยู่นี้ มันจริงค่ะ ทุกครั้งที่เราหลงชอบใครขึ้นมา เราก็จะมีความหวังเล็ก ๆ ในใจให้เขารู้สึกเช่นเดียวกันกับเรา ในทางกลับกันเมื่อมีคนมาชอบเรา เขาคนนั้นก็คงมีความหวังว่าเราจะรู้สึกสนใจเขาเช่นกัน
ถ้ามันจบลงตรงที่ทั้งสองฝ่ายใจตรงกัน เรื่องมันก็คงจะแฮปปี้ แต่...ในชีวิตจริงมันไม่ได้เป็นแบบนั้นค่ะ เพราะมันมีทั้งคนที่สมหวังและผิดหวัง แต่บางคนก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ผิดหวังแบบเต็มร้อย เพราะอีกฝ่ายดูยังแอบส่งสัญญาณหรือนัยยะบางอย่างทางความสัมพันธ์อยู่
หนุ่มสาวบางคนอาจจะเต็มใจต่อการมีความหวังต่อไปว่ารักครั้งนี้จะลงเอยด้วยดี แต่สาว ๆ คะ หากเราไม่ได้คิดอะไรในเชิงคนรักกับอีกฝ่าย จงเลี่ยงต่อการทำ 6 สิ่งนี้ซะ เพราะถึงแม้เราจะไม่ได้ตั้งใจให้ความหวังใคร แต่มันก็อาจทำให้อีกฝ่ายเข้าใจผิดได้!
1. อย่าอยู่ใกล้ชิดกันมาก
คำว่า " รักแท้แพ้ใกล้ชิด " อาจเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้กับหลาย ๆ คน แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเกิดกับทุกคน ถ้ารู้อยู่แล้วว่าเขาชอบเรา แต่เราไม่ได้คิดกับเขาแบบนั้น พยายามจะอยู่ใกล้เขา ณ จุดนี้ไม่ได้บอกว่าให้ทำตัวออกห่างชัดเจนนะคะ แต่ให้ทำตัวปกติกับเขา แค่อย่าอยู่ชิดใกล้กันมาก เพราะนั่นอาจจะทำให้เขาเข้าใจผิดได้ ซ้ำร้ายมันอาจจะเลยเถิดถึงขั้นที่เขาอาจคิดไปเองว่าเราก็แอบมีใจให้เหมือนกัน
2. อย่าพูดอะไรให้เขาคิดไปไกล
การสื่อสารนั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมากต่อคนทุกเพศทุกวัย แม้ว่าการพูดจาปราศััยจะเป็นการสื่อสารที่แสดงออกได้อย่างชัดเจนที่สุด เพราะมีเสียงออกมาให้เราได้ยิน แต่มันก็มีปัญหาเกิดขึ้นได้เหมือนกันถ้าเรา " พูดไม่เคลียร์ " จนทำให้ผู้ฟังเกิดการนำไปจำ และไปคิดต่อจนเกิดการเข้าใจในจุดประสงค์ของเราผิดไป
ในหัวข้อนี้ก็เช่นกัน ถ้าคนที่เราชอบพูดว่า " เป็นห่วง " เรา แน่นอนว่าเราซึ่งเป็นคนฟังก็จะรู้สึกดีใจ และกระชุ่มกระชวย มีความสุขขึ้นมา และอาจถึงขั้นหวังว่าเขาคงรู้สึกดีกับเราเหมือนที่เราก็รู้สึกดีกับเขาเช่นกัน แต่ใครจะไปรู้ได้ เพราะคำว่าเป็นห่วง คือเป็นห่วงจริง ๆ ในฐานะเพื่อน พี่ หรือน้อง ไม่ได้ห่วงแบบคนรักสักหน่อย ฉะนั้นถ้าสาว ๆ จะพูดคำคำนี้กับใคร ( แบบที่ไม่ให้ดูเกินเลย ) ควรจะขยายความอีกสักนิดว่าเป็นห่วงแบบเพราะเห็นเธอเป็นเพื่อน เป็นพี่ หรือเป็นน้องอะไรก็ว่าไป มันจะได้เป็นการเคลียร์ความหมายให้ชัดเจนไปในตัวด้วย
ในหัวข้อนี้ก็เช่นกัน ถ้าคนที่เราชอบพูดว่า " เป็นห่วง " เรา แน่นอนว่าเราซึ่งเป็นคนฟังก็จะรู้สึกดีใจ และกระชุ่มกระชวย มีความสุขขึ้นมา และอาจถึงขั้นหวังว่าเขาคงรู้สึกดีกับเราเหมือนที่เราก็รู้สึกดีกับเขาเช่นกัน แต่ใครจะไปรู้ได้ เพราะคำว่าเป็นห่วง คือเป็นห่วงจริง ๆ ในฐานะเพื่อน พี่ หรือน้อง ไม่ได้ห่วงแบบคนรักสักหน่อย ฉะนั้นถ้าสาว ๆ จะพูดคำคำนี้กับใคร ( แบบที่ไม่ให้ดูเกินเลย ) ควรจะขยายความอีกสักนิดว่าเป็นห่วงแบบเพราะเห็นเธอเป็นเพื่อน เป็นพี่ หรือเป็นน้องอะไรก็ว่าไป มันจะได้เป็นการเคลียร์ความหมายให้ชัดเจนไปในตัวด้วย
3. ไม่ต้องแสดงความห่วงใยออกมามาก
ถัดมาจากข้อเมื่อตะกี้พอดี ที่เรายกตัวอย่างในเรื่องของการพูดว่าเป็นห่วงใครขึ้นมา นอกจากคำพูดที่ต้องมีการเคลียร์ประเด็นให้ชัดแล้ว เรื่องของการกระทำก็เช่นกันค่ะ ถึงแม้ว่าเราจะพูดว่าไม่ได้คิดอะไรในเชิงคนรัก แต่ถ้าการกระทำมันสวนทางกัน ก็ทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้เช่นกัน
จริง ๆ ก็แสดงความเป็นห่วงได้ตามสมควรค่ะ แต่อย่าให้มันเกินขอบเขตจนดูน่าเกลียดเกินไปนัก เพราะมันอาจจะทำให้อีกคิดว่าเรานั้นปากไม่ตรงกับใจ, แค่อ่อยเล่น หรือต้องการหยอดเพื่อให้เขามีความหวังขึ้นมาเท่านั้น
จริง ๆ ก็แสดงความเป็นห่วงได้ตามสมควรค่ะ แต่อย่าให้มันเกินขอบเขตจนดูน่าเกลียดเกินไปนัก เพราะมันอาจจะทำให้อีกคิดว่าเรานั้นปากไม่ตรงกับใจ, แค่อ่อยเล่น หรือต้องการหยอดเพื่อให้เขามีความหวังขึ้นมาเท่านั้น
4. แตะเนื้อต้องตัว หรือแสดงความสนิทสนมมากกว่าปกติ!
ข้อนี้คล้าย ๆ กับข้อแรกค่ะที่บอกว่าพยายามอย่าอยู่ใกล้ชิดกันมาก กับคนที่ไม่ได้คิดอะไรกัน การแตะเนื้อต้องตัวอาจเป็นเรื่องธรรมดาที่ต่างคนต่างปฎิบัติกันจนเคยชิน ( ก็คงคล้าย ๆ กับการกอดเพื่อนสาวนั่นแล ) แต่ถ้ารู้ว่าอีกฝ่ายคิดอะไรกับเราแล้วล่ะก็...นี่คือสิ่งที่ห้ามทำอย่างเด็ดขาด!
เพราะมันอาจทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว และอยากอยู่ใกล้เรามากขึ้นไปอีก บางทีเขาอาจเผลอไปตีความว่าเป็นภาษากายที่สื่อ ( จากความคิดของเขาเอง ) ว่าเราชอบเขาก็ได้! ต้องอย่าทำให้เขาเข้าใจผิดไปในทางนั้นค่ะ
เพราะมันอาจทำให้เขารู้สึกหวั่นไหว และอยากอยู่ใกล้เรามากขึ้นไปอีก บางทีเขาอาจเผลอไปตีความว่าเป็นภาษากายที่สื่อ ( จากความคิดของเขาเอง ) ว่าเราชอบเขาก็ได้! ต้องอย่าทำให้เขาเข้าใจผิดไปในทางนั้นค่ะ
5. อยากคุย เพื่อให้เป็นที่ระบายความเหงา ทั้งที่ไม่จริงจัง
ไม่แปลกนักเวลาที่มีเรื่องต้องให้คิด เราก็อยากจะหาใครสักคนไว้ปรึกษาหรือระบายความอัดอั้นตันใจออกมา ซึ่งผู้ที่รับฟังปัญหาและความคับข้องใจของเราย่อมจะต้องเป็นคนที่เราไว้ใจมากที่สุด แต่บางทีเราก็ต้องการแค่คนรับฟังในฐานะ " เพื่อน " เพียงอย่างเดียว ไม่ได้ต้องการให้อีกฝ่ายรู้สึกอะไรกับเรามากไปกว่านั้น
แต่ถ้าอีกฝ่ายเขาชอบเรา มันก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะคิดเอาเองว่าตัวเองนั้นยังมีความหวังอยู่บ้าง เนื่องมาจากความไว้ใจที่เรามีให้ หรือไม่ถ้าดีขึ้นหน่อย มันก็มีเหมือนกันที่เขาจะไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ณ จุดนี้สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการทำยังไงก็ได้ให้เขารับรู้และเข้าใจ ว่าเขาคือ " เพื่อนที่ดี " ของเราเท่านั้น
แต่ถ้าอีกฝ่ายเขาชอบเรา มันก็มีความเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะคิดเอาเองว่าตัวเองนั้นยังมีความหวังอยู่บ้าง เนื่องมาจากความไว้ใจที่เรามีให้ หรือไม่ถ้าดีขึ้นหน่อย มันก็มีเหมือนกันที่เขาจะไม่คิดเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ณ จุดนี้สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการทำยังไงก็ได้ให้เขารับรู้และเข้าใจ ว่าเขาคือ " เพื่อนที่ดี " ของเราเท่านั้น
6. รักษาความสัมพันธ์ต่อไป เพียงเพราะรู้สึกสงสาร
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความรัก)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe