ปีนี้เรากำลังจะอายุสี่สิบแบบเต็มตัวแล้ว ก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนใบหน้ามากขึ้น แต่สิ่งที่อาจจะแตกต่างจากคนวัยเดียวกันเล็กน้อย คือผิวเรายังไม่ค่อยมีริ้วรอย เลยอยากจะมาแชร์วิธีการดูแลผิวหน้าในแบบของเราค่ะ


สวัสดีค่ะ บทความนี้เกิดขึ้นเพราะเหตุที่ว่าปีนี้เรากำลังจะอายุสี่สิบแบบเต็มตัวแล้ว ( 39 ขวบแล้วจ้า ) ซึ่งแน่นอนว่าวัยขนาดนี้เนี่ย ก็มีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นบนใบหน้ามากขึ้น แต่สิ่งที่อาจจะแตกต่างจากคนวัยเดียวกันเล็กน้อย คือผิวเรายังไม่ค่อยมีริ้วรอย หรือหย่อนคล้อยตามวัยเท่าไหร่ จะมีแค่ริ้วรอยใต้ตาเล็กน้อย เพราะเรานอนดึก หรือ บางทีนอนเช้า เพราะเราทำธุรกิจส่วนตัว เลยต้องเหมาทำเองหมดทุกอย่าง ทำให้มีเวลาพักผ่อนที่ผิดธรรมชาติพอสมควร ช่วงนี้จากผิวที่เคยสุขภาพดี อ่อนกว่าวัย มันเลยมีเส้นบางขึ้นที่ใต้ตา กับร่องแก้มข้างขวา เพราะเราชอบนอนตะแคงขวา แก้มเลยย้วยไปข้างนั้นบ่อยกว่าข้างซ้าย แต่มันก็ยังดูไม่เยอะ ดังนั้นเราจึงต้องรีบแก้ไขเป็นการด่วน

รูปหน้าสดเซลฟี่ในรถ โนแอพใดๆ ค่ะ (แอบทาลิปให้ปากไม่ซัดนิดหน่อย)
และเพราะเราเป็นคนที่เริ่มดูแลผิวมาตั้งแต่ยังอยู่ชั้น ม.ต้น ทำให้ผิวค่อนข้างจะเหี่ยวช้ากว่าคนวัยเดียวกัน เราเลยอยากมาแชร์วิธีดูแลผิวหน้าที่เราใช้เป็นประจำให้เพื่อนๆ หรือน้องๆ ที่ยังอายุไม่เยอะฟังนะคะ จุดประสงค์คืออยากให้สาวๆ ที่ยังห่างไกลจากเลขสี่ รีบดูแลผิวอย่างดีตั้งแต่เนิ่นๆ แล้วผิววัยสี่สิบก็จะห่างไกลจากคำว่า “ สี่สิบ ” ค่ะ ส่วนเพื่อนๆ ที่วัยใกล้เลขสี่เหมือนกัน เราก็อยากแชร์ประสบการณ์การดูแลผิวของตัวเองให้เพื่อนฟังๆ นะคะ อันนี้ไม่ได้จะบอกว่าตัวเองสวยอะไรนะคะ แต่ว่าผิวเราแทบจะไม่มีริ้วรอยอะไรเลย และคนรู้จักมักจะมาถามบ่อยๆ ว่าทำยังไง ก็เลยคิดว่า เออ ลองเอามาแชร์คนอื่นบ้างดีกว่า
แต่วิธีของเราอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะกับทุกคนนะคะ ใครมีสภาพผิวแห้ง หรือแพ้ง่าย บางวิธีทีที่เราใช้ อาจไม่ควรทำตามค่ะ และก็ของที่เราใช้มีทั้งราคาถูก ราคากลางๆ ไปจนถึงราคาแพง คละๆ กันไปนะคะ เพราะเราไม่ติดแบรนด์เท่าไหร่ อาศัยว่าอ่านโน่นนี่นั่นในเนต แล้วลองซื้อมาใช้ดู อันไหนถูกกับตัวเอง ก็จะใช้ต่อไปเรื่อยๆ

น้ำมันล้างหน้าที่ใช้เป็นประจำมาหลายปี
::: การทำความสะอาดหน้า :::
** Make Up Remover **
ปกติเราเป็นคนที่แต่งหน้าน้อยมากค่ะ คือถ้าครีมบำรุงผิว กันแดด แล้วตามด้วย BB ครีม หรือ CC ครีม แล้วแต่อารมณ์และเงินในกระเป๋าในช่วงนั้น และเราก็จะทามันแค่ช่วงใต้ตา ( ที่กินบริเวณลงมาแถวด้านล่างเยอะๆ หน่อย ไม่ใช่ทาแต่ใต้ตาอย่างเดียว ) ข้างจมูก หว่างคิ้ว และคาง เสร็จแล้วก็ทาลิป และปัดแก้มด้วยลิปที่เหลือติดนิ้วนิดหน่อย ทำให้เราไม่ต้องล้างหน้านานมาก
เราใช้น้ำมันล้างหน้าของแบรนด์ญี่ปุ่นต่างๆ มาโดยตลอดค่ะ เริ่มต้นที่ Fasio เป็นน้ำมันแบบเจล จนมาเปลี่ยนเป็นน้ำมันแบบน้ำ แล้วพอ Fasio เลิกวางขายแพร่หลายในเมืองไทย เราก็หันมาหายี่ห้ออื่นแทน ตอนนี้เลยมาถูกใจ Softymo แทน เพราะราคาไม่แพง และล้างหน้าได้สะอาดดีค่ะ

โฟมล้างหน้า

อันนี้สูตรที่ใช้ประจำ สำหรับผิวธรรมดา
** Facial Wash **
เราถูกใจโฟมล้างหน้าของฮาดะลาโบะที่สุดค่ะ เพราะเป็นยี่ห้อเดียวที่เราใช้แล้ว ไม่รู้สึกว่าหน้าแห้งตึงหลังล้างหน้า ปกติจะใช้สูตรผิวธรรมดา หลอดแถบสีน้ำเงิน-ชมพู แต่ตอนนี้ลองหันมาใช้แถบสีม่วง - ส้มดูค่ะ มันเป็นแบบเนื้อสครับ เนื้อสครับละเอียดดี ล้างแล้วหน้ายังนุ่มไม่แห้งตึงเหมือนเดิม

ผงถั่วเขียวพอกหน้า ขัดหน้า รักษาสิวอักเสบ และช่วยให้หน้าเนียน

สครับขัดหน้าโอ๊คมีล
** Facial Scrub **
เราใช้เฟเชียล สครับ มาหลากหลายยี่ห้อมากๆ ค่ะ แต่ที่ประทับใจจริงๆ คือ “ ผงถั่วเขียว ” ของ สวนปาน หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปนะคะ บางครั้งนอกจากจะเอามาขัดหน้าแล้ว เราจะเอามาผสมกับน้ำผึ้ง แล้วพอกหน้าทิ้งไว้ทั้งคืนค่ะ เพื่อให้หน้าเนียนเรียบ และลดการอักเสบหรือรอยแดงจากสิว สำหรับเรามันมีคุณสมบัติช่วยให้หน้าเนียนใส และลดรอยแดง ลดการอักเสบของสิวได้ดีเลยค่ะ แต่สูตรนี้ไม่แนะนำสำหรับคนผิวแห้งนะคะ เพราะผงถั่วเขียว จะทำให้หน้าค่อนข้างตึง เหมือนช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินออกไปน่ะค่ะ
ส่วนสครับตัวอื่นๆ ที่ใช้ ตอนนี้ก็มี St.Ives Nourished & Smooth Oatmeal Scrub + Mask มันเป็นสครับข้าวโอ๊ตจากธรรมชาติที่ใช้เป็นมาส์คพอกหน้าได้ด้วย กลิ่นนวลๆ เบาๆ ใช้แล้วหน้านุ่มดี เม็ดสครับละเอียด และไม่บาดผิว

น้ำตบเอสเต้
::: การบำรุงผิวหน้า :::
** เบสด้วยน้ำตบ **
เราชอบใช้น้ำตบมากๆ เพราะเนื้อมันเบาสบายดี หน้าไม่เหนียวเหนอะหนะ เพราะผิวเราเป็นผิวธรรมดาค่อนไปทางมัน นอกจากบางช่วงที่พักผ่อนน้อย ผิวก็อาจจะแห้งไปบ้าง และด้วยความที่ชอบความเบาๆ บางครั้งก็เลยใช้แต่น้ำตบอย่างเดียวเลย ไม่ได้ใช้อะไรอย่างอื่นต่อ
น้ำตบที่เราใช้ประจำมีอยู่ 3 ยี่ห้อด้วยกันค่ะ
Estee Lauder Micro Essence
ตัวนี้ตอนแรกซื้อแบบขวดเล็กๆ มาลองก่อน ลองแล้วติดใจ เลยไปสอยขวดใหญ่มาตัวนี้กลิ่นมันไม่ค่อยโสภาเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอมจนหอมฟุ้ง แต่กลิ่นมันเหมือนยาๆ นิดนึงอ่ะ ใช้แล้วหน้าเด้งดีค่ะ ตัวเดียวอยู่สำหรับคนผิวธรรมดากับผิวมัน เนื้อโลชั่นน้ำตบตัวนี้จะค่อนข้างบางเบา แต่ก็มีความเหนียวนิดๆ ทาแล้วจะเหมือนมีฟิล์มบางๆ เคลือบผิว
Hada Labo
เราใช้น้ำตบของฮาดะมานานมากๆ สำหรับคนอื่นอาจไม่โอเค แต่กับผิวเราน้ำตบยี่ห้อนี้มันไม่หนาหนักเกินไป ไม่เบาบางเกินไป ตอนนี้เราใช้ทาก่อนทายาแก้สิวอุดตันด้วยค่ะ

Firming Essence Lotion เอสเซนส์ โลชั่น หรือน้ำตบของบอดี้ ช็อป
Body Shop Firming Essence Lotion
ตัวนี้เพิ่งได้มาลองใช้ เพราะชอบกลิ่นที่ออกแนวสมุนไพรธรรมชาติ รู้สึกสดชื่นดีนะเวลาใช้ แล้วเนื้อโลชั่นก็บางใส ไม่มัน แต่ทาแล้วก็ยังรู้สึกว่ามีฟิล์มเคลือบอยู่บนผิว ไม่ได้ซึมหายไปจนหมด ซึ่งจะต่างกับของเอสเต้ที่เนื้อโลชั่นบางมาก และกลิ่นไม่หอมเลย เหมือนทายาเล็กน้อย ส่วนฮาดะก็อย่างที่รู้ๆ กันว่า มันค่อนข้างจะชุ่มชื่นเกินเหตุไปหน่อยในบางที แต่ของบอดี้ชอปคือชุ่มชื่นกำลังดี และซึมลงผิวเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ

เนื้อเอสเซนส์โลชั่นของบอดี้ ช็อป

ผิวก่อนทาเอสเซนส์ โลชั่นของบอดี้ ช็อป

ทันทีที่ทาโลชั่นของบอดี้ ช็อปเสร็จ ผิวจะเป็นแบบนี้ ดูฉ่ำๆ วาวๆ เล็กน้อย

หลังทาเอสเซนส์โลชั่นของบอดี้ ช็อปไปสัก 1-2 นาที จนเนื้อโลชั่นซึมลงผิวหมดแล้ว ผิวจะดูชุ่มชื้นขึ้น

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe