แดดแรงราวกับอยูเมืองไทย แต่อุณภูมิในตอนนั้นคือ 8 องศา #มันจะคอนทราสต์กันหน่อยๆ

ห้องน้ำสาธารณะในสมัยก่อน

สัญลักษณ์นี้ ที่จริงแล้วเป็นภาพทับซ้อนกันหลายภาพ แต่เมื่อถอนรหัสแล้ว จะมีความหมายว่าเป็นเมืองที่มีคนคริสต์ หรือนับถือคริสต์

โรงละคร The Great Theater โรงละครขนาดใหญ่ ที่ไม่ว่าผู้ชมจะนั่งตรงไหน ก็จะได้ยินเสียงของนักแสดงด้างล่าง

หอสมุดเซลซุส ที่ยิ่งใหญ่อลังการสุดๆ

วิวปามุคคาเลจากหมู่บ้านด้านล่าง ที่เราไปมาตอนหน้าร้อนเมื่อปีก่อน

ปามุคคาเลตอนหน้าหนาว บนหินสีขาวนั้นจะเป็นทางน้ำไหล หากไปตอนหน้าหนาวขอบอกเลยว่าน้ำเย็นมาก !!!! เเละต้องเดินเท้าเปล่านะ เพราะเขาห้ามใส่รองเท้า หรือถุงเท้าเดินบนนี้

หลังจากที่ฝ่าฟันน้ำเย็นจนเท้าชาบ้าง หลบไปเอาเท้าแช่ในธารน้ำอุ่นบ้าง เรามาก็มาถึงจุดที่สวยที่สุดของภูเขา มองไปข้างล่างเหมือนเมืองในเทพนิยายเลย ( แต่มองเผินๆ ก็แอบเหมือน Lake Bled ในสโลวาเนียเนาะ )

ยืมเพื่อนมาเป็นนางแบบหน่อยนะ

เมืองนี้ได้รับความเสียหายทั้งจากภัยธรรมชาติ และสงคราม แต่ถึงแม้จะเหลือแต่ซากเมืองแล้ว เราก็ยังรู้สึกว่ามันต้องเป็นเมืองที่น่าอยู่มากแน่ๆ เพราะทำเลดีเวอร์ ตั้งอยู่บนเขาเชียวนะ

โรงละครแบบกรีกของเมือง ที่ดูแล้วน่าจะคงสภาพได้สมบูรณ์มากที่สุด ชาวกรีกนี่ชอบละครกันจริงๆเลยนะเนี้ย

หินที่แคปปาโดเกียนั้น เกิดจากการแข็งตัวของลาวาภูเขาไฟ ในหน้าร้อนอากาศจะร้อนมาก ส่วนหน้าหนาว อากาศก็จะเย็นมากค่ะ

หินที่รูปร่างเหมือนเห็ดยักษ์ มุมนี้กว่าจะได้มานั้นต้องใช้ความสามารถในการปีนป่ายพอสมควร 555