สกินแคร์ การดูแลบำรุงผิวของจอส Jossy Berry

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทีนี้เรามาเริ่มกันทีละตัวกันเลยค่ะ
ต่อไปเรามาดูสภาพผิวในแต่ละขั้นตอนที่ลงสกินแคร์กันค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
สวัสดีค่ะ ช่วงนี้มีหลายคนที่สนใจเรื่องการบำรุงผิวของจอส
และก็มีรีเควสกันเข้ามาทางแฟนเพจ วันนี้จอสก็เลยจะมารีวิวสกินแคร์ต่างๆ ที่ใช้อยู่
ซึ่งจริงๆ แล้วจอสได้ลองใช้มาหลายตัวมาก แต่จะหยิบมารีวิวเฉพาะตัวที่ชอบ
ใช้แล้วดี และใช้เป็นประจำเท่านั้นนะคะ
โดยปกติแล้วจอสเป็นคนผิวผสม มันช่วงทีโซน ผิวค่อนข้างขาวและมีกระนิดหน่อย
มีสิวบ้างบางครั้งนานๆ มาที 1-2 เม็ด เอาเป็นว่าโดยรวมคือผิวกลางๆ ไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ
สกินแคร์ที่จอสเลือกใช้ จะเน้นไปที่การบำรุงเพื่อเติมความชุ่มชื้น
เพราะจอสเชื่อว่าพื้นฐานผิวที่ดีคือผิวที่ชุ่มชื้นและแข็งแรง ไม่ใช่ผิวขาว
เมื่อใดก็ตามที่ผิวของเราได้รับการบำรุงที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการของผิว
ผิวเราก็จะเผยความสดใส เปล่งปลั่ง และดูสุขภาพดีออกมาจากภายในค่ะ
สำหรับสกินแคร์ที่จอสหยิบมารีวิวในวันนี้ก็จะมีอยู่ทั้งหมด 4 ตัว
เป็นสกินแคร์พื้นฐานที่จอสใช้เป็นประจำทุกวันในช่วงนี้ค่ะ
ทีนี้เรามาเริ่มกันทีละตัวกันเลยค่ะ
ตัวแรกจอสภูมิใจนำเสนอมาก เพราะตัวนี้เป็นสกินแคร์ตัวใหม่จากเกาหลี
จอสได้มาลองใช้ประมาณสองอาทิตย์แล้ว ตอนนี้ติดใจมาก ใช้ทุกวันเลย
Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate
150 มล.
เป็นเซรั่มเนื้อน้ำที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งส่วนผสมสำคัญของเค้าก็คือ Marine Plankton Stemcell Complex
หรือที่เรียกว่าสารสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล 8% เป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากทะเล
ที่มาจากทั้งแพลงก์ตอนพืชอย่างสาหร่ายทะเลสีแดงและสีน้ำตาล และสารสกัดจากแพลงก์ตอนสัตว์
เป็นเซรั่มเนื้อน้ำที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งส่วนผสมสำคัญของเค้าก็คือ Marine Plankton Stemcell Complex
หรือที่เรียกว่าสารสกัดจากแพลงก์ตอนทะเล 8% เป็นเซลล์ต้นกำเนิดจากทะเล
ที่มาจากทั้งแพลงก์ตอนพืชอย่างสาหร่ายทะเลสีแดงและสีน้ำตาล และสารสกัดจากแพลงก์ตอนสัตว์
หรือสิ่งมีชีวิตเล็กๆใต้ท้องทะเลลึก เช่น Jelly fish, Crustacean, Arrow Warms
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำแร่บริสุทธ์บนเกาะเชจูและสมุนไพรเกาหลีอีกกว่า 20 ชนิด
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของน้ำแร่บริสุทธ์บนเกาะเชจูและสมุนไพรเกาหลีอีกกว่า 20 ชนิด
โดยผลของการใช้ Water Serum ตัวนี้ก็จะช่วยเพิ่มพลังงานให้เซลล์ผิว
กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ และทำให้ผิวของเราแข็งแรงขึ้น
และด้วยส่วนผสมของ Marine Plankton Stemcell Complex
จะทำหน้าที่ในการขุดอุโมงค์หลายชั้นในเซลล์ผิว ทำให้ดูดซึมได้อย่างรวดเร็วและสร้างสมดุลผิว
จึงเห็นผลในเรื่องของความกระจ่างใส ชุ่มชื้น และยืดหยุ่นยกกระชับค่ะ
และตัวนี้เป็นขั้นตอนแรกของการเตรียมผิวก่อนที่จะลงสกินแคร์ตัวอื่นๆ
จึงช่วยให้เซรั่มและครีมซึมซาบเข้าผิวของเราได้อย่างล้ำลึกมากยิ่งขึ้นด้วย
ผลิตภัณฑ์ Sena Marine Plankton Water Serum Concentrate วิจัยและผลิตที่ประเทศเกาหลี
จะเริ่มวางขายในเดือนกันยายนนี้ ขอบอกว่าเตรียมตัวกันให้พร้อมเลยเพราะมันเด็ดมาก
จะเริ่มวางขายในเดือนกันยายนนี้ ขอบอกว่าเตรียมตัวกันให้พร้อมเลยเพราะมันเด็ดมาก
เนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำเหลวมีลักษณะใสๆ ค่ะ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
วิธีใช้สามารถหยด 3-5 หยดลงบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วใบหน้าได้เลย
หรือจะใช้กับสำลีก็ได้เช่นกัน ใช้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นขั้นตอนแรกของการบำรุง
ตัวนี้เนื้อจะบางเบาและซึมเร็วมากๆ พอทาลงไปแล้วจะซึมเข้าผิวของเราไปหมดเลย
โดยที่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว ทำให้สบายผิว เหมาะกับอากาศบ้านเรา
ซึ่งบางครั้งที่อากาศร้อนมากๆ จอสจะใช้เดี่ยวๆได้เลย โดยที่ไม่รู้สึกว่าผิวแห้งค่ะ
หลังจากที่ใช้มาสองสัปดาห์ได้แล้ว สิ่งที่เห็นชัดสุดคือผิวดูแข็งแรงและมีความยืดหยุ่น
เวลาลูบไปบนผิวแล้วจะรู้สึกได้เลยว่าผิวเรียบเนียนมากขึ้น ที่สำคัญคือใช้แล้วไม่แพ้ค่ะ
และด้วยความที่เนื้อเซรั่มซึมได้ดี ทำให้การลงสกินแคร์ในขั้นต่อไปง่ายขึ้น
เพราะมันทำให้เซรั่มและครีมซึมเข้าผิวได้ดีไปด้วยค่ะ ชอบมาก
ตัวต่อไปเป็นเซรั่มของเกาหลีเช่นเดียวกันค่ะ ช่วงนี้สกินแคร์เกาหลีมาแรง
Skindom Luxury Cell Collagen Peptide Ampoule 30 มล.
ตัวนี้เป็นแบรนด์สกินแคร์ที่คลินิคผิวหนังในเกาหลีนิยมใช้กัน
มาในรูปแบบ Ampoule ( แอมเพิล ) หรือ superserum ที่มีเนื้อบางเบา
แต่มีส่วนผสมที่สำคัญและเข้มข้นมากๆ สามารถซึมเข้าผิวของเราได้ดีค่ะ
ตัวเซรั่มมีส่วนผสมของ Collagen Peptide ที่เข้มข้น และสารสกัดจากพืชค่ะ
ทางแบรนด์เค้าเคลมไว้ว่า เซรั่มขวดนี้สามารถให้ผลลัพธ์ถึง 7 ประการ
ได้แก่ ลดเลือนริ้วรอย, เพิ่มความยืดหยุ่น, ผิวเงาเป็นประกาย, กระชับรูขุมขน,
ผิวดูอ่อนกว่าวัย, ควบคุมความมัน, และเติมความชุ่มชื้นค่ะ
ผลิตภัณฑ์ของ Skindom มีวางจำหน่ายที่ร้าน Watson และ EveandBoy
เพื่อนๆ ที่สนใจสามารถลองไปหามาใช้ดูได้ เห็นว่าช่วงนี้มีโปรโมชั่นอยู่ด้วยนะคะ
เนื้อเซรั่มจะเป็นสีใสๆ แต่จะเข้มข้นและยืดหยุ่นกว่าตัวแรก กลิ่นหอมอ่อนๆ
จอสใช้เป็นขั้นตอนที่สองของการบำรุงผิวค่ะ
ถ้าเป็นช่วงกลางวันจะใช้แค่สองตัวนี้ จากนั้นก็ลงกันแดดและแต่งหน้าได้เลย
ใช้ประมาณ 2-3 หยด ลงบนฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วใบหน้าได้เลย
จากนั้นก็นวดๆ ให้เซรั่มซึมเข้าผิว พอทาตัวนี้แล้วจะรู้สึกว่าผิวชุ่มชื้นมากขึ้น
เนื้อเซรั่มจะซึมเข้าผิวไปเลย แต่จะดูฉ่ำๆ วาวๆ โดยที่ไม่ทิ้งความเหนียวเหนอะหนะไว้บนผิว
ขวดนี้จอสใช้มาจนเกือบจะหมดแล้วค่ะ คิดว่าต้องหามาใช้ต่อแน่นอน
ที่ชอบเพราะว่าหลังทาไปแล้วผิวมันดูดีมากๆ คือมันดูฉ่ำๆ เหมือนผิวสาวเกาหลี
ระหว่างวันจะไม่ทำให้ผิวมัน แต่ให้ความชุ่มชื้นได้ดีมาก
ส่วนผสมค่อนข้างอ่อนโยนต่อผิว ใช้แล้วไม่มีอาการแพ้ใดๆ
เป็นเซรั่มที่ใช้แล้วถูกกับผิวจอสมาก คิดว่าขวดนี้ควรมีติดบ้านไว้ค่ะ
ตัวต่อไปเป็นครีมบำรุงผิวจากฝั่งอเมริกากันบ้าง
Origins Make A Difference Night Overnight Hydrating Repair Cream 50 มล.
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าจอสได้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ของ Origins มาหลายตัวแล้วเหมือนกัน
แต่ตัวนี้เป็นกระปุกที่ใช้แล้วชอบที่สุดตั้งแต่เคยใช้ของแบรนด์นี้มา
ส่วนประกอบหลักของตัวนี้ก็คือ Rose of Jericho หรือที่เรียกว่ากุหลาบทะเลทราย
ซึ่งกุหลาบทะเลทรายนี้มีความสามารถพิเศษคืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่แห้งแล้งได้อย่างยาวนาน
และสามารถกลับมาฟื้นฟูมีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง เพียงได้รับน้ำแค่เล็กน้อย
จึงเป็นส่วนผสมหลักที่ช่วยให้ผิวขาดน้ำกลับมาชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งได้อย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของลิ้นจี่และแตงโม ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นไปอีกขั้น
ซึ่งผลิตภัณฑ์ Make A Difference ของ Origins ตัวนี้
สามารถเข้าฟื้นบำรุงถึงต้นเหตุของผิวที่ขาดน้ำได้อย่างรวดเร็ว
และช่วยเสริมระดับน้ำในผิวและความชุ่มชื้นได้เพียงข้ามคืน
ตัวนี้จอสจะใช้ในตอนกลางคืนเท่านั้นค่ะ
เพื่อนๆ สามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์ของ Origins ได้ตามเค้าเตอร์ในห้างสรรพสินค้าค่ะ
เนื้อครีมจะเป็นสีขาวเข้มข้น แต่มีความยืดหยุ่นและทาง่ายค่ะ
กลิ่นของเค้าจะหอมแบบ Essential Oil กลิ่นแรงระดับกลางค่ะ
คือผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ๋ของ Origins เค้าจะผสม Essential Oil แทนน้ำหอม
เพื่อลดโอกาสของการแพ้หรือระคายเคือง ซึ่งตัวนี้จอสว่ากลิ่นหอมที่สุด
ใช้แล้วไม่แพ้ไม่มีสิวอุดตันด้วยค่ะ เพราะปกติผิวของจอสจะไม่ค่อยเหมาะกับน้ำมัน
ซึ่งผลิตภัณฑ์บางตัวของเค้าที่จอสเคยใช้มาก็มีแพ้น้ำมันจาก Essential Oil เหมือนกันค่ะ
คือจะมีสิวอุดตันขึ้นมาบางจุด แต่ตัวนี้ผ่านฉลุยค่ะ ใช้มาครึ่งกระปุกแล้ว ไม่มีอาการแพ้ใดๆ
ผลหลังการใช้คือมันเป็นครีมบำรุงที่เข้มข้นก็จริง แต่มันซึมเข้าผิวได้ค่อนข้างดี
ที่จอสรู้สึกได้คือ สารบำรุงในเนื้อครีมได้ซึมเข้าไปบำรุงในชั้นผิวของเราได้อย่างล้ำลึก
ซึ่งเทียบกับสองตัวข้างบนแล้วตัวนี้จะทิ้งความมันวาวไว้เยอะกว่า เพราะเป็นเนื้อครีม
แต่ถ้าเทียบกับครีมบำรุงผิวตัวอื่นๆ ที่มีลักษณะเข้มข้นแบบนี้แล้ว ตัวนี้ถือว่าซึมได้ดีที่สุด
และที่สำคัญคือเนื้อครีมเกลี่ยง่าย ลื่นไปกับผิวและไม่รู้สึกว่าหนืดด้วยค่ะ

Disclaimer : บทความนี้ได้รับการอนุญาตให้เผยแพร่จาก Nuffnang โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความงาม)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe