6 เส้นผม 6 ไดร์! สภาพผมแบบนี้ เหมาะกับไดร์แบบไหนมากที่สุด!?

 

ปกติพอสระผมเสร็จ ก็เอาไดร์มาเป่าๆ ให้แห้งไปงั้นแบบไม่ได้สนใจอะไร ผมสวยบ้างไม่สวยบ้าง ขอแค่แห้งและสะอาดเป็นพอ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าจริงๆ แล้ว ที่เราผมชี้ฟูโด่เด่ อาจเป็นเพราะการไดร์ผมแบบไม่ได้สนใจอะไรก็ได้นะ

 

ก็จริงอยู่ที่ช่างทำผมที่มีฝีมือ เขาจะมีไดร์ประจำตัว ที่ใช้ได้กับทุกคน ผ่านมือช่างปุ๊ป ผมพลิ้วสลวยหมด แต่สำหรับคนที่ไม่ได้มีพื้นฐานทางด้านการทำผม มันก็ต้องมีเคล็ดลับกันซักหน่อย แล้วเคล็ดลับที่ว่า ก็ไม่ใช่อะไรยุ่งยากเลย ก็เพียงแค่เลือก ‘ ไดร์ ’ ให้เหมาะกับ ‘ สภาพเส้นผม ’ ของเราเท่านั้น ซึ่งในบทความนี้จะแนะนำไดร์ 6 ตัว ตามสภาพเส้นผม จะมีอะไรบ้าง เลื่อนมาเลยฮ้าาาา

 

ไดร์เป่าของ Drybar ตัวนี้ เรียกได้ว่าเป็นเจ้าแห่งการเป่าผมเลยทีเดียว คิดดูเถอะ เป็นแค่ไดร์ แต่ดูเหมือนจะรู้ตัวทุกช่วงขณะการทำความร้อน มีระดับอุณหภูมิ 3 ระดับ ตั้งค่าความเร็วได้ 2 ขึ้น และด้วยพลานุภาพของปากไดร์ที่ค่อนข้างกว้างมากๆ ทำให้ช่วยประหยัดเวลาการไดร์ผมไปได้มากเลย ถึงแม้จะผมหนา ผมเยอะแค่ไหน ด้วยปากไดร์กว้างก็สามารถควบคุมความร้อนให้กระจายไปทั่วเส้นผม แห้งไวได้แบบไม่กินเวลาซักกะติ๊ด

 

สำหรับคนที่มีสภาพเส้นผมปกติอยู่แล้ว ไม่ต้องหาตัวช่วยให้ไดร์เร็ว ไดร์ทั่วถึง แต่ต้องการเพิ่มวอลลุ่มให้เส้นผม และดูเป็นประกายเงางาม งั้นลองไดร์ของ T3 ที่มาพร้อมกับน้ำหนักเบาดั่งขนนกตามชื่อรุ่นที่ตั้งไว้ว่า Featherweight ที่ช่วยให้เราสามารถควบคุมการไดร์พร้อมกับหวีได้แบบสะดวกสบาย คล่องแคล่ว ช่วยให้เซ็ตผมมีวอลลุ่มได้ดั่งใจ

นอกจากนี้ก็ยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยรักษาสุขภาพของเส้นผมได้มากกว่าเป่าลมธรรมดาซะอีก ถึงราคาจะสูงไปนิด แต่แลกมากับสรรพคุณแบบนี้จะมีอะไรให้บ่นอีกละเน้ออ

 

สำหรับคนที่ผมค่อนข้างเสียเป็นทุนเดิม จากการทำสี หรือโดนความร้อนโดยตรงมาแบบยาวนาน ได้เวลาเปลี่ยน! ด้วยเทคโนโลยีของไดร์ผมเซรามิค มาพร้อมกับกำลัง 2000 วัตต์ ที่ช่วยส่งความร้อนแบบอินฟราเรดให้อุ่นจากด้านใน ซึ่งการที่เราเป่าผมให้แห้ง โดยไม่ให้แห้งจนเต็มที่ถือเป็นเรื่องดีต่อทุกๆ สภาพเส้นผมอยู่แล้ว แต่ถ้าใครรู้ตัวว่าเส้นผมโดนทำลายมามากแล้ว ก็ยิ่งต้องได้รับการใส่ใจด้วยไดร์เป่าที่ไม่ทำลายผมให้เสียยิ่งขึ้นแบบนี้แหละ