หนึ่งในวิธีการสร้างแรงบันดาลใจให้ได้ผลแบบทันทีสำหรับผู้เขียนแล้วก็คือ 'การออกไปท่องเที่ยว' เพื่อให้ได้ความคิดปิ๊งๆ ขึ้นมา งั้นเราไปเที่ยวกันเถอะกับยุโรปในช่วง Wintertime ค่า

เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. BAMBERG, GERMANY
2. COLMAR, FRANCE
3. ฮัลล์สตัทท์, AUSTRIA
4. Quebec City, CANADA
5. Stein am Rhein, SWITZERLAND
การผจญภัยในช่วงฤดูหนาวกับเมืองในยุโรป หลายๆ คนมักจะพูดว่านี่คือเวลาแห่งการผจญภัยในเทพนิยายอย่างแท้จริง เพราะบรรยากาศของยุโรปในช่วงหน้าหนาวเป็นอะไรที่ฟินสุดๆ และจะยิ่งฟินขึ้นไปอีกสำหรับคนเมืองร้อนอย่างเรา เป็นการหลบร้อนไปซุกความหนาวและแสงสีสวยๆ ในช่วงนั้น ที่ซึ่งจะได้ความสุนทรียศาสตร์และสถาปัตยกรรมของเมืองเก่าและเมืองใหม่
และการไปเที่ยวในสถานที่เหล่านี้ ผู้เขียนขอบอกเลยว่าจะยิ่งน่าหลงใหลยิ่งขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส เพราะเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยริ้บบิ้น ต้นคริสต์มาส ไฟห้อยระย้าสวยงาม ร้านอาหารที่จัดเต็มด้านการตกแต่ง และของขวัญนานาชนิด นี่เป็นคำเชิญเข้าสู่โลกที่ปกคลุมด้วยหิมะ งั้นอย่ารอช้าอยู่เลย ตามมาค่ะ
1. BAMBERG, GERMANY
ศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมและมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี จนทำให้ที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกเมื่อปี 1993 ให้เป็นเมืองมรดกโลก และ Bamberg ก็ยังเป็นศูนย์กลางสำหรับเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาส: ในฤดูหนาวด้วย กับการตกแต่งด้วยฉากการประสูติพระเยซูมากกว่า 40 ฉากให้เราได้ชมกัน

เป็นตลาดสำหรับจัดเทศกาลเฉลิมฉลองคริสต์มาสที่มีร้านค้ามากมาย แน่นอนว่าคุณจะได้พลาดซื้อกลับไป
2. COLMAR, FRANCE
“ลิตเติ้ลเวนิส” เป็นเมืองหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เเละได้รับการเเต่งตั้งจากองค์การยูเนสโก้ขึ้นเป็น
มรดกโลก ซึ่งตัวเมืองนั้นตั้งอยู่ห่างจากเมืองสตราสบูร์กไปทางตะวันตกเฉียงใต้ประมาณ 64 กิโลเมตร โดยมนต์เสน่ห์ของกอลมาร์ก็มีทั้งสถาปัตยกรรมที่ยังคงสภาพเป็นเมืองโบราณเอาไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
ทำให้โดยรอบของเมืองสามารถจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ให้ไปได้ไกลว่าจะจินตนาการ
3. ฮัลล์สตัทท์, AUSTRIA
มากที่สุด เพราะเมื่อสถาปัตยกรรมบาร็อคและโบสถ์ Maria Himmelfahrt ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะ
มันสมบูรณ์แบบจนเกือบจะกินได้

สมกับการเป็นเมืองริมทะเลสาปที่สวยที่สุดจริงๆ และยิ่งหน้าหนาวกับหิมะที่ปกคลุมเมืองแบบนี้ด้วยแล้ว
ก็ยิ่งทำให้เหมือนเมืองในเทพนิยายไปกันใหญ่เลย

ความงดงามที่ยิ่งกว่าจินตนาการไว้ แน่นอนว่าเมื่อเราได้ไปเยือนไอเดียต่างๆ ที่ตันอยู่ จะต้องถูกกระแทกให้ออกมาดังปังๆ แน่ๆ
4. Quebec City, CANADA
เมืองควิเบกคือรัฐที่ใหญ่ที่สุดในประเทศแคนาดา และตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของประเทศแคนาดาเป็นเมืองที่ได้รับอิทธิพลจากประเทศฝรั่งเศส โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านสถาปัตยกรรมและภาษาจึงทำให้เกิดหมู่บ้านไสตล์ยุโรปที่มีเสน่ห์ตั้งอยู่บนเนินเขาสามารถมองเห็นแม่น้ำเซนต์ลอว์เรแสนสวยงามเเละน่าประทับใจมาก

Maple syrup คือเป็นขนมมีชื่ออีกอย่างของแคนาดา และต้องมาทานที่ควิเบก โดยเขาจะเคี่ยวไซรัปมาใหม่ๆ จากนั้นก็ราดลงบนหิมะแล้วกินรวมกับหิมะเลย ว้าวววว
5. Stein am Rhein, SWITZERLAND
เมืองนี้อยู่ทางตอนเหนือของประเทศ Switzerland มีแม่น้ำ Rhein ไหลผ่านกลางเมือง ความสวยงามแบบน่ารักตามสไตล์เมืองเล็กๆ ก็ทำให้ Stein am Rhein กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ Switzerland โดยบริเวณที่มีมนต์เสน่ห์นี้ถูกล้อมรอบด้วย Rathausplatz (จัตุรัสของเมือง)
ซึ่งเป็นที่ประดับประดาด้วยภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีสีสันในสมัยศตวรรษที่ 1500 พร้อมด้วยวิวของธรรมชาติ และบ้านเรือนเล็กๆ นอกจากนี้เมื่อเราเข้าเขตเมืองเก่าก็จะพบอาคารบ้านเรือนจากยุคกลางที่มีภาพเขียนเฟรสโกลวดลายต่างๆ เรียงรายเต็มไปหมด

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดท่องเที่ยว)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe