5 สัญญาณบ่งบอกว่า 'สุขภาพแย่ลง เพราะไม่ดูแลตัวเอง' #มาเช็คตัวเองหน่อยเร็ว

โดยปกติเวลาทำงานของทุกคนจะอยู่ที่ 8 ชั่วโมงต่อวัน แต่ปัจจุบันอาชีพมีความหลากหลายมากขึ้น ที่ไม่ได้มีแค่ ' ทำงานออฟฟิศ ' เท่านั้น ดังนั้นการทำงานก็จะนานออกไป เวลาพักเดินเล่นและกินข้าวก็น้อยแสนน้อย อาหารที่ขายแต่ละอย่างก็มีแต่เนื้อๆ แป้งๆ ทั้งนั้น

เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว อาการต่อมาที่จะเกิดขึ้นแน่นอนเลยก็คือ ' ความขี้เกียจขยับตัว ' ก็แบบว่าทำงานเหนื่อยแล้วอะ ขอนั่งแทนการเดินดีกว่าอะไรแบบนี้ จึงไม่ต้องพูดถึงเวลาออกกำลังกายเลยค่า เพราเราจะมีข้ออ้างตลอดว่า “ ไม่มีเวลา ” หรือ “ เหนื่อยแล้ว ” นั่นเอง แล้วแบบนี้สุุขภาพร่างกายจะไม่ทรุดโทรมและอ้วนยังไงไหวล่ะคะ

ดังนั้นอย่ารอช้าอยู่เลย ลองมารีเช็คตัวเองกันนิดนึงถึงอาการเหล่านี้ที่เป็นสาเหตุให้เราเจ็บเล็กเจ็บน้อยตลอดเวลาทำงาน

สำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ' การเดิน ' ถือเป็นการออกกำลังกายที่ไม่เลว แต่หากขาสองข้างไม่ออกแรงเลย เดินแบบเหยาะแหยะ หรือตำแหน่งศูนย์กลางผิด ไม่เพียงแต่การเผาผลาญไขมันที่ไม่ได้ผลแล้ว ยังนำไปสู่ปัญหาต่างๆ ได้ด้วย เช่น หัวเข่าเอียง กล้ามเนื้อแข็งตึง และบางคนก็ชอบเป็นตะคริว

  

อยากให้ ' การนั่งแช่ ' คือสิ่งที่ทุกคนไม่ชอบ แม้ว่าเราจำเป็นต้องนั่งนานๆ ก็ตาม เราก็ต้องรู้จักหันมาเปลี่ยนอากัปกิริยาบ้าง เช่น เดินไปดื่มน้ำ ถ่ายเอกสาร สะบัดแขนขาและตัว หรือจะเดินไปส่งเอกสารด้วยตัวเอง ก็เอาที่ทำได้ง่ายและสะดวกในที่นั้น

เพราะ ' การนั่งแช่ ' เปรียบเหมือนการนั่งรอพุงย้วยๆ ตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย แถมยังทำให้ร่างกายเกิดความเฉื่อยชาไม่กระฉับกระเฉงด้วยนะตัวเอง

 

การนั่งเป็นเวลานานๆ ทำให้การไหลเวียนโลหิตช่วงล่างติดขัด ส่งผลให้เกิดอาการท้องผูกง่าย เบตาบอลิซึมไม่ดี บวมน้ำที่ขา และไขมันใต้ผิวหนังพอกตัวหนาขึ้นๆ นอกจากนี้ยังทำให้กล้ามเนื้อแข็งตึง

ดังนั้นหนุ่มสาววัยทำงานจึงมักปวดเอวกัน และการนั่งผิดท่าก็เป็นปัญหาสำคัญ ลองนึกดูว่า ' คุณชอบนั่งเอียงหรือไขว้ห้างบ่อยไหม ' ถ้าใช่เปลี่ยนท่าเลยค่ะ มานั่งตัวตรงๆ ปล่อยไหล่และข้อศอกลงตามสบายดีกว่านะคะ

 

เอาล่ะ ~  พอเราไม่นั่งแช่ เราได้ขยับตัวบ้างแล้ว แต่ก็ยังอ้วนอยู่ดี ทำไมๆ อีกละ นั่นเพราะเราชอบเดินเอียงไงคะ สาเหตุอาจมาจากส้นรองเท้าข้างใดข้างหนึ่งสึกไปแล้วก็ยังไม่รู้ตัว ทนใช้ไม่เปลี่ยน ไม่ได้นะคะ เราต้องรู้จักเปลี่ยนใหม่ เน้นรองเท้าที่จะช่วยให้การเดินของเรามีระนาบตรงเท่ากัน

เพราะถ้าไม่เปลี่ยน เวลาเราเดินก็จะเดินเอียงๆ เสียบุคลิกภาพ แถมทำให้สุขภาพแย่ลงๆ และไขมันสะสมมากกว่า ไม่ดีเลยใช่ไหมล่ะคะ

 

ตัวดีเลยสำหรับของหวานๆ ยิ่งบวกกับ 4 อาการข้างต้นด้วยแล้ว เหมือนระเบิดลงค่ะ จะปฎิเสธว่าไม่เป็นไรไม่ได้แล้วนะคะ เพราะ ' ของหวาน ' ที่ถูกกินเข้าไปแล้วไม่ได้รับการเบิร์นอย่างถูกวิธีก็จะกลายมาเป็นวัฎจักรที่ทำให้เราอ้วนต่อๆ ไป สิ่งที่ตามมาก็คือ ' อาการเจ็บป่วย ' มาเยือนนั่นเอง เพราะในของหวานมีน้ำตาลจำนวนมาก และมีข้อเสียอีกมากมายด้วยนะคะ  

วิธีที่ดีสุดคือ ลดมันค่ะ ลองหา ' น้ำเปล่า ' มาไว้ข้างตัวแทน ยิ่งถ้าเราผ่านช่วงเวลากินข้าวเที่ยงมาแล้วละก็ หิวก็จิบน้ำแทนก็เป็นอะไรที่เริ่ดมากๆ