เคล็ดลับทำผมไม่ต้องง้อร้านแค่หวีเปลี่ยนทรงผมก็เปลี่ยน
Articles hair
ผม

เคล็ดลับทำผม ไม่ต้องง้อร้าน | แค่หวีเปลี่ยน ทรงผมก็เปลี่ยน

หวีแบบไหน ให้ผมทรงอะไร มาทำความรู้จักแบบที่ Hair stylist รู้กันดีกว่า!


» » »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 8 ประเภทของหวี .... เลือกหวีแบบไหน ได้ผมแบบนั้น!

    • 1. Paddle Brush

    • 2. Round Brush

    • 3. Metal Round Brush

    • 4. Metal Core Brush

    • 5. Porcupine Brush

    • 6. Smoothing Brush

    • 7. Vent Brush

    • 8. Teasing Brush

    • บทความที่เกี่ยวข้อง

     
    เวลาไปไดร์ผมที่ร้านเคยคิดกันมั้ยว่า เขาทำกันได้ยังไงถึงไดร์ผมออกมาได้ตรง และมีวอลลุ่มขนาดนี้  ขนาดเคยลองจำวิธีหวีมาทำที่บ้านมั่งแล้ว ทำไมไม่เหมือนล่ะ!?   ก็อาจจะจริงที่ว่าเขามืออาชีพมากกว่า แต่หากเราฝึกบ่อยๆ มันก็เชี่ยวชาญได้เหมือนกัน  แต่อันที่จริง ความพิเศษที่ทำให้ช่างทำผมทุกคนสามารถควบคุมเส้นผมให้ออกมาเป็นทรงได้อย่างใจนั่นก็คือ  " การเข้าใจในคุณสมบัติของอุปกรณ์ที่ใช้ "   มันก็เหมือนกับการที่เราทำอาหารแล้วรู้ว่า เกลือ น้ำตาล ซอสปรุงรสมีรสชาติเป็นยังไง เลยสามารถปรุงรสให้ออกมากลมกล่อมได้ดังใจชอบ   แล้วหากเราอยากจะมีผมทรงไหน ต้องการให้ผมออกมาเป็นยังไง " หวี " คืออุปกรณ์พื้นฐานสำคัญที่ Hair stylist เลือกใช้ 
    หากเราอยากควบคุมเส้นผมได้ดังใจปรารถนาแล้วล่ะก็ มาทำความรู้จักกับ " คุณสมบัติของหวี " แต่ละแบบกันเลยดีกว่านะ
     

    8 ประเภทของหวี .... เลือกหวีแบบไหน ได้ผมแบบนั้น!

    1. Paddle Brush

    หวีแปรงชนิดนี้เรียกว่าเป็นแปรงอเนกประสงค์เลยก็ว่าได้  เพราะคุณสามารถจัดการปัญหาผมยุ่งๆ พันกันได้ด้วยหวีอันนี้  ไดร์ผมก็ได้ นวดศีรษะก็ได้ ทำให้ผมเรียบและดูมีวอลุ่มก็ได้ แถมยังไม่ดึงเส้นผม หรือไปข่วนหัวให้เจ็บอีกต่างหาก เพราะว่ามันจะมีหมุดกลมๆ จากไนลอนที่จะไม่ก่อให้เกิดการสถิตของเส้นผม และมีแผ่นบุกันกระแทกอยู่อีกด้วย  คุณสามารถใช้หวีแบบนี้ไดร์ผมได้ในเช้าที่รีบเร่ง ก่อนจะม้วน หรือจะดัดใดๆ ก็ได้ทั้งนั้น

    2. Round Brush

    หวีกลมแบบนี้สมควรจัดไว้เป็นหวีสามัญประจำบ้านไปได้เลย เพราะด้วยหวีแบบนี้มีขนแปรงที่อ่อนโยนเพียงพอที่จะช่วยเรื่องเส้นผมที่ยุ่งเหยิง แต่ก็แข็งแรงมากพอที่จะยืดผมให้ตรงได้  ถ้าดูโดยรวมของแปรงจะเห็นได้ว่ามีจำนวนขนแปรงอยู่ในระดับที่เพอร์เฟกต์ เหมาะเหม็งมากๆ สำหรับการซอกซอนเส้นผม ซึ่งเมื่อเราหวีด้วยแปรงแบบนี้  เส้นผมจะพันไปรอบๆ แปรง และเด้งตัวออกมา ซึ่งจะทำให้ได้ผมที่โดดเด้ง มีวอลุ่ม และเงางามได้อย่างใจ


    3. Metal Round Brush

    แปรงชนิดนี้จะให้ผลเหมือนที่ม้วนผมเมื่อโดนความร้อน  ฉะนั้นส่วนมากเราจะใช้แปรงแบบนี้แหละในการม้วนผม เวลาที่เราต้องการให้ปลายผมโค้งงอน หรือต้องการลอนหน่อยๆ โดยไม่ต้องใช้ที่ม้วนผม  ตรงแกนที่เป็นส่วนเว้าจะทำให้ลมจากไดร์สามารถเป่าผ่านทะลุไปได้  ซึ่งจะทำให้ผมโดนลมได้อย่างทั่วถึงและทำให้ผมแห้งได้อย่างรวดเร็ว   แต่เวลาใช้ต้องระมัดระวังหน่อย เพราะอาจจะไปข่วนโดนหนังศีรษะ หรือถ้าหากเราทำช้าเกินไปก็จะโดนความร้อนจากไดร์เป่าผม และแกนหวีได้

    4. Metal Core Brush

    แปรงหวีอันนี้คล้ายๆ กับการนำ Round Brush + Metal Round Brush  เพราะมีขนแปรงทั้งแบบไนลอน และขนแบบหมูป่าอยู่ในอันเดียวกัน ซึ่งจะทำให้คุณสามารถควบคุมเส้นผมได้ง่ายกว่าแปรง Metal core brush ทั่วๆ ไป   โดยขนหมูป่าจะช่วยเป็นตัวกันระหว่างหนังศีรษะกับแกนเหล็กของหวีไม่ให้ได้รับความร้อนมากเกินไป  แปรงชนิดนี้จึงจัดว่ามีประโยชน์แบบมัลติหลากหลายด้านมากในบรรดา Round Brush ด้วยกัน  แถมยังทำให้ผมตรงดูนุ่มสลวยได้อีกด้วยนะ

    5. Porcupine Brush

    แค่ได้ยินชื่อว่าแปรงขนเม่นก็อย่าเพิ่งตกใจจินตนาการกันไปก่อนล่ะว่า ตัวเองต้องเอาขนเม่นมาแปรงผมเรอะเนี่ย  เปล่าเลยจ้า ใจเย็นๆ เพราะชื่อ Porcupine เนี่ยมันเป็นชื่อเรียกเพื่อสื่อถึง ขนหลายๆ แบบที่มาอยู่รวมกันเป็นเซ็ตๆ คล้ายขนเม่น  โดยจริงๆ แล้วแปรงชนิดนี้จะผสมผสานไปด้วยขนหลายแบบซึ่งแน่นอนว่ารวมถึงขนหมูป่าและไนลอนไว้ด้วยกัน   ยังไงก็ตามแปรงแบบนี้จัดว่านุ่มนวลพอสมควร แต่ก็สามารถจับติดเส้นผมได้ดี อีกทั้งยังถูกออกแบบมาให้ควบคุมเส้นผมได้ดีมาก สามารถซอกซอนเส้นผมไปสู่หนังศีรษะได้แม้แต่คนผมหนาก็ตาม

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดผม)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe