Berry หมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศชนบทอยู่ทางตอนใต้ของซิดนี่ย์ ที่บรรยากาศดีไม่แพ้ยุโรป

เลือกอ่านตามหัวข้อ
Berry
The Burrows of Berry

พบกับ MeliMeli คนเดิม กับการพาเที่ยวออสเตรเลียในแบบตามใจฉัน
Hello !!! ^O^ เพื่อนๆ ชาว SistaCafe ที่น่ารักทุกคน
MeliMeli กลับมาแล้วค่าาาา
คราวนี้มีหมู่บ้านเล็กๆ บรรยากาศดีๆ มาแนะนำให้เพื่อนๆ รู้จักนะคะ
หมู่บ้านนี้ชื่อว่า ' Berry ' ค่ะ
หู้ววว แค่ชื่อก็น่ารักแล้วเนาะ >__<
จะช้าอยู่ทำไม เราไปทำความรู้จักกับหมู่บ้านเล็กๆ นี้กันเถอะค่ะ !!!
Berry
Berry ( เบอร์รี่ ) เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่มีประวัติย้อนไปตั้งแต่ช่วงปี 1810s
ก่อนหน้าที่ชาวตะวันตกจะเข้ามาตั้งถิ่นฐาน พื้นที่นี้ถูกเรียกว่า Boon-ga-ree ซึ่งเป็นภาษาของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย
ต่อมาชื่อหมู่บ้าน ' Berry ' ถูกตั้งตามนามสกุลของเจ้าของดินในยุคแรกๆ ซึ่งเป็นชาวสก็อตแลนด์
Berry อยู่ทางตอนใต้ของซิดนีย์ ระยะทางห่างจากซิดนีย์ประมาณ 145 กิโลเมตร วิธีการเดินทางมาที่นี่ง่ายสุดคือนั่งรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆจากซิดนี่ย์ มาลงสถานี Berry จากนั้นก็เดินเลาะตามถนนเล็กๆ ประมาณสิบนาทีก็จะถึงตัวหมู่บ้าน แต่ MeliMeli กับเพื่อนขับรถส่วนตัวไปค่ะ ในวันหยุดมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่มาก ก็ต้องวนหาที่จอดนานเหมือนกัน
ก่อนหน้าที่ชาวตะวันตกจะเข้ามาตั้งถิ่นฐาน พื้นที่นี้ถูกเรียกว่า Boon-ga-ree ซึ่งเป็นภาษาของชนพื้นเมืองออสเตรเลีย
ต่อมาชื่อหมู่บ้าน ' Berry ' ถูกตั้งตามนามสกุลของเจ้าของดินในยุคแรกๆ ซึ่งเป็นชาวสก็อตแลนด์
Berry อยู่ทางตอนใต้ของซิดนีย์ ระยะทางห่างจากซิดนีย์ประมาณ 145 กิโลเมตร วิธีการเดินทางมาที่นี่ง่ายสุดคือนั่งรถไฟ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆจากซิดนี่ย์ มาลงสถานี Berry จากนั้นก็เดินเลาะตามถนนเล็กๆ ประมาณสิบนาทีก็จะถึงตัวหมู่บ้าน แต่ MeliMeli กับเพื่อนขับรถส่วนตัวไปค่ะ ในวันหยุดมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่นี่มาก ก็ต้องวนหาที่จอดนานเหมือนกัน

วิวจากตัวเมืองมุ่งสู่ Berry อาาาาาห์ ฟินกับวิวแบบนี้จัง

พวกเราได้ที่จอดรถไม่ไกลจากสถานีรถไฟ เลยได้เดินเล่นชมวิวชิลล์ๆ มาที่ตัวหมู่บ้าน
Berry ถึงอยู่จะในแถบชนบทก็จริง แต่อย่างที่บอกว่าเดี๋ยวนี้มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาเยี่ยมชมมาก ฉะนั้นเขาจึงปรับหมู่บ้านให้มีอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ควบคู่ไปกับเกษตรกรรมซึ่งเป็นอาชีพเดิมของคนในพื้นที่ค่ะ จะเห็นว่าที่นี่มีทั้งโรงเเรม ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ มากมาย แต่หากใครอยากจะดื่มด่ำความเป็นชนบทอีกนิดล่ะก็ เพียงแค่ออกไปนอกหมู่บ้านไม่กี่กิโล ก็จะพบกับไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เนื่องจากที่นี่โด่งดังเรื่องไวน์ค่ะ

นอกจากเรื่องไวน์แล้ว พวกตึกรามบ้านช่องในเมืองก็สวย และน่ารักมากๆค่ะ มีพิพิธภัณฑ์ของหมู่บ้านด้วย มุมให้ถ่ายรูปก็มีเยอะมาก แต่ที่แนะนำคือสวนสาธารณะ Apex Park ค่ะ เป็นสวนที่มีต้นไม้เยอะมาก บวกกับช่วงที่เราไปเป็นช่วงปลายฤดูใบไม้ร่วงพอดีทำให้มีใบไม้สีส้มร่วงอยู่เต็มพื้น ได้บรรยากาศสุดๆ
อ้อ และที่สำคัญคือ หมู่บ้านนี้ไม่มีไฟจราจรค่ะ ขับรถกันนี่เน้นที่น้ำใจอย่างเดียวเลย

สี่แยกในหมู่บ้าน บอกแล้วว่าไม่มีไฟจราจร

พิพิธภัณฑ์เข้าชมฟรีค่ะ


บรรยากาศ Autumn สุดๆ อยากให้เมืองไทยมีบ้างจัง คงสวยไม่แพ้กันเลย

การันตีความเก่าแก่กับตึกที่สร้างตั้งแต่ปี 1888

ร้านขายของน่ารักๆ

ร้านนี้ก็น่ารักไม่แพ้กันเลย

ร้านขายลูกกวาดที่แค่เห็นป้ายหน้าร้านก็สัมผัสได้ถึงความหวาน
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดท่องเที่ยว/คาเฟ่)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe