
เลือกอ่านตามหัวข้อ
1. เริ่มพูดว่าไม่มีความสุข
2. ไม่สะดวกใจที่จะแสดงความรักต่อกัน
3. ยากที่จะขอความช่วยเหลือ
4. ไม่ค่อยลงรอยกัน
5. เรื่องเงินเริ่มเป็นใหญ่
6. สบายใจที่ได้คุยกับคนอื่นมากกว่า
7. อนาคตเป็นเรื่องที่น่ากลัว
เมื่อความรักเดินทางมาถึงจุดที่ยาวนานกว่าที่คิด จนเริ่มรู้จักตัวตนกันมากขึ้น เผชิญปัญหาต่างๆ มาด้วยกัน และผ่านการทะเลาะกันด้วยเรื่องง่ายๆ มาก็หลายครั้ง เรียกได้ว่ารู้จักกันเองจนแทบทุกมุม และด้วยเวลาที่ยาวนานนี้ บางคนก็อาจแปรเปลี่ยนจากความรัก กลายเป็นแค่ความเคยชินที่ได้อยู่ด้วยกัน และบางคู่ก็เริ่มจืดจางลงเรื่อยๆ แต่ก็ยังทนอยู่แบบงงๆ เพราะไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำว่าต้องการอะไร และคนที่อยู่ด้วยเป็นคนที่ใช่แล้วหรือไม่ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้นานวันเข้า คุณก็จะพลาดโอกาสได้เจอคนที่ดีกว่าเข้ามาในชีวิตแน่นอน
วันนี้เราจึงขอแนะนำวิธีการตรวจสอบ 7 สัญญาณบ่งบอก ความสัมพันธ์นี้ใกล้สิ้นสุดของคนมีรักในระยะยาว มาฝากคนที่ยังไม่รู้ใจตัวเองกันค่ะ
1. เริ่มพูดว่าไม่มีความสุข
ความรักในระยะยาวต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกันที่มากขึ้น แต่บางคู่กลับเริ่มหมางเมินใส่กัน เพราะเห็นว่ายิ่งนานวันก็เริ่มชินกับสิ่งที่เป็นอยู่ ซึงความรู้สึกชินนี้จะทำให้สักวันหนึ่งคุณจะเริ่มต้องการความเปลี่ยนแปลงแบบกะทันหัน และเริ่มเบื่อหน่ายกับสิ่งความสัมพันธ์ที่เป็นอยู่มากขึ้นทุกวัน จนในที่สุดคำว่า " ไม่มีความสุข " จะเกิดขึ้นในใจและถี่มากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นถ้าช่วงไหนที่คุณเริ่มคิดหรือพูดแบบนี้ออกมาบ่อยๆ ก็เริ่มรู้ตัวได้เลยค่ะว่า ความรักของคุณเริ่มจะหมดเวลาแล้ว
ดังนั้นถ้าช่วงไหนที่คุณเริ่มคิดหรือพูดแบบนี้ออกมาบ่อยๆ ก็เริ่มรู้ตัวได้เลยค่ะว่า ความรักของคุณเริ่มจะหมดเวลาแล้ว
2. ไม่สะดวกใจที่จะแสดงความรักต่อกัน
การแสดงออกถึงความรัก ที่ไม่ว่าจะกอด จับมือ จับเอว หรือหยอกล้อกัน สำหรับคู่รักที่อยู่กันมานานจะเริ่มลดอาการเหล่านี้ลง แต่ก็ยังคงมีบ้างเป็นบางเวลา แต่คู่ที่กำลังมีสัญญาณที่ไม่ดี ไม่ใช่แค่เพียงว่าลดอาการแต่ยังทำท่าทีหรือรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะทำเรื่องเหล่านี้อีกต่อไป
แม้แต่การพูดคุยกันด้วยเรื่องง่ายๆ ก็เริ่มรู้สึกอึดอัด หรือโดนตัวกันแค่เล็กน้อยก็รู้สึกไม่ดี บางคู่อาจจะเป็นหนักถึงขั้นแค่อยู่ใกล้กันก็รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจแล้ว ถ้าเริ่มมีอาการหรือความรู้สึกเหล่านี้ ก็เตรียมตัวหาคำพูดดีๆ แล้วโบกมือลากันได้เลยค่ะ
แม้แต่การพูดคุยกันด้วยเรื่องง่ายๆ ก็เริ่มรู้สึกอึดอัด หรือโดนตัวกันแค่เล็กน้อยก็รู้สึกไม่ดี บางคู่อาจจะเป็นหนักถึงขั้นแค่อยู่ใกล้กันก็รู้สึกอึดอัดไม่สบายใจแล้ว ถ้าเริ่มมีอาการหรือความรู้สึกเหล่านี้ ก็เตรียมตัวหาคำพูดดีๆ แล้วโบกมือลากันได้เลยค่ะ
3. ยากที่จะขอความช่วยเหลือ
เมื่อใดที่เรารู้สึกว่าคนรักของเรากลายเป็นคนที่ขอความช่วยเหลือได้ยากมากขึ้น และไม่เคยคิดจะช่วยลดภาระใดๆ ไม่ว่าจะเรื่องง่ายๆ อย่างงานบ้าน หรือแม้แต่การเก็บเสื้อผ้าตัวเองลงตะกร้า ก็คงยากที่จะขอความช่วยเหลือในด้านอื่นของชีวิต เมื่อคุณต้องเผชิญปัญหาเพียงฝ่ายเดียว แล้วเอ่ยปากขอร้องให้คนรักช่วยเหลือ แต่กลับได้ความรู้สึกที่อึดอัดใจ ไม่สะดวก หรือทำมึนๆ ของคนรักกลับคืนมา
หรือแม้แต่ตัวคุณเองที่เมื่อคนรักมาขอความช่วยเหลือ แล้วรู้สึกไม่อยากยุ่ง ไม่อยากช่วยเหลือ และไม่อยากสนใจ รู้ไว้เลยค่ะว่านั่นคือสัญญาณของการเลิกราที่ชัดเจนที่สุด
หรือแม้แต่ตัวคุณเองที่เมื่อคนรักมาขอความช่วยเหลือ แล้วรู้สึกไม่อยากยุ่ง ไม่อยากช่วยเหลือ และไม่อยากสนใจ รู้ไว้เลยค่ะว่านั่นคือสัญญาณของการเลิกราที่ชัดเจนที่สุด
4. ไม่ค่อยลงรอยกัน
การพูดคุยแล้วโต้แย้งเพราะความคิดไม่เหมือนกัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติของคู่รักทั่วไป แต่ถ้าเมื่อใดที่คู่ของคุณเริ่มจับทุกอย่างมาเป็นประเด็นแตกแยก แล้วมักยืนกันอยู่คนละฝั่งเสมอ แถมทุกครั้งที่โต้แย้งกันก็กลายเป็นการทะเลาะที่ต่างฝ่าย ต่างก็ต้องการเอาชนะซึ่งกันและกันเท่านั้น ทำชีวิตไม่ลงรอยกันอยู่ตลอดเวลา หรือเห็นคนรักทำอะไรก็ขวางหู ขวางตา ไม่เคยเห็นด้วยหรือรู้สึกดีสักครั้ง ถ้าเป็นแบบนี้อีกไม่นานก็คงได้โบกมือลากันแน่นอนค่ะ
5. เรื่องเงินเริ่มเป็นใหญ่
อีกหนึ่งปัญหาวัดใจของคู่รัก คือ เรื่องเงิน ถ้าคู่รักที่มีแนวโน้มจะอยู่กันยาวๆ มักจะคิดถึงเรื่องการออมเงิน การลงทุน และการสร้างสินทรัพย์ต่างๆ ร่วมกันเพื่ออนาคต แต่คู่ไหนที่จะไปไม่รอด มักจะไม่คิดเรื่องเหล่านี้และจะมีปัญหาเรื่องการเงินตลอดเวลา เช่น การใช้จ่ายที่คิดถึงแต่ตัวเอง, เมื่อเงินตัวเองหมดก็บังคับเอาเงินจากอีกฝ่าย หรือการทวงหนี้สินที่ติดกันอยู่ตลอดเวลา
เรื่องเงินจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในคู่ระยะยาวได้ดีที่สุด เพราะถ้าไม่คิดถึงกัน ต่างคนต่างซื้อในสิ่งที่ตัวเองต้อง ไม่เก็บเงินร่วมกัน นั่นก็หมายความว่ายังไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวไปด้วยกันนั่นเอง
เรื่องเงินจะเป็นตัวบ่งชี้ถึงความสัมพันธ์ในคู่ระยะยาวได้ดีที่สุด เพราะถ้าไม่คิดถึงกัน ต่างคนต่างซื้อในสิ่งที่ตัวเองต้อง ไม่เก็บเงินร่วมกัน นั่นก็หมายความว่ายังไม่พร้อมที่จะสร้างครอบครัวไปด้วยกันนั่นเอง
6. สบายใจที่ได้คุยกับคนอื่นมากกว่า
เมื่อใดที่คุณเริ่มรู้สึกว่าคนรักกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุณไม่อยากคุยด้วย ไม่อยากปรับทุกข์ด้วย หรือไม่ต้องการคุยอะไรให้ฟัง เพราะคุยไปเขาก็ไม่ใส่ใจ ทำเป็นไม่รับรู้ และไม่เคยช่วยแก้ปัญหา แต่กลับต้องการคุยกับเพื่อนหรือผู้ชายอีกคนมากกว่า รู้สึกว่าคนนอกกลายเป็นคนที่เข้าใจ แถมรู้สึกเป็นปลื้มและเคมีไปตรงกับผู้ชายอีกคนที่คุยกันมากกว่าอีกด้วย
ถ้ามีอาการแบบนี้แสดงว่าใจคุณก็แทบไม่เหลือคนรักอยู่ในสมองแล้วค่ะ แนะนำให้คุยกันดีๆ ก่อน ถ้าสามารถตกลงกันได้ก็ขอให้แยกกันไปด้วยดี และหลังจากนี้คุณอาจจะเจอคนที่ใช่จริงๆ แล้วก็ได้ค่ะ
ถ้ามีอาการแบบนี้แสดงว่าใจคุณก็แทบไม่เหลือคนรักอยู่ในสมองแล้วค่ะ แนะนำให้คุยกันดีๆ ก่อน ถ้าสามารถตกลงกันได้ก็ขอให้แยกกันไปด้วยดี และหลังจากนี้คุณอาจจะเจอคนที่ใช่จริงๆ แล้วก็ได้ค่ะ
7. อนาคตเป็นเรื่องที่น่ากลัว
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดความรัก)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe