เที่ยวสไตล์ Beach camping บนเกาะแบบส่วนตัวสุดๆ ที่เกาะ "นาคาน้อย"
PAGE 2/4

เป็นหมู่คณะก็มีนะจ๊ะ

เรือเค้าจอดเป็นพร๊อพให้ ทางเราก็ต้องใช้ให้เกิดประโยชน์

เย็นๆ น้ำลด ก็จะมานั่งดูเกาะกลางน้ำโผล่ ชมฝูงปลาเล็ก ปลาน้อย เรือทยอยกลับฝั่ง ข้างหน้าคือนาคาใหญ่ ใหญ่กว่าน้อยมากกกก
ช่วงเวลาหลัง 4 โมง เสมือนเกาะนี้เป็นของเรา และบวกกับความสามารถพิเศษที่นำติดตัวมา ความเจื้อยแจ้วเจรจา เห็นสปีดโบ๊ทเล็กผ่านมา ตะโกนเรียก ขอกระโดดขึ้นเรือออกทะเล ไปให้อาหารไก่กะพี่ที่ดูแลอุปกรณ์บนเกาะ พี่เค้าก็ใจดีให้เราทั้ง 8 คนขึ้นไปด้วย เรือแทบสปีดไม่ไหว บรรทุกเยอะเกิน พี่เค้าขับวนไปฝั่งที่เลี้ยงหอยมุก แล้วก็กลับพามาส่งที่ท่า

ภาพถ่ายจากบนเรือถ่ายย้อนกลับมาที่เกาะ ฝั่งหลังเกาะดำชมปะการังน้ำตื้น

ขอบคุณพี่ที่ขับสปีดโบ๊ทพาเราชมเกาะ
ความพอใจไม่จบแค่นั้น หลังจากพี่คนแรกขับพามาส่ง เราก็เล่นวอลเลย์บอล พายแคนู อยู่สักพัก พี่อีกคนขับเรือมาเทียบกลับจากตกปลา ทางเราก็เข้าไปชาร์จเจรจา ไปตกปลาอีกป่าวพี่ หนูไปด้วย ผลของการขอออกไปตกปลา ภาพที่ได้มาคือ...ชมพระอาทิตตกกลางทะเลลลลล ฟินฝุด

ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเล แบบไม่มีค่าใช้จ่ายขึ้นกับการเจรจาฉอเลาะล้วนๆ

อ่ะๆ สร้างภาพตกปลาถือคันเบ็ดซะหน่อย

ท้องฟ้ายามเย็นเห็นแสง Twilight
ผลจากการติดเรือไปตกปลา ชมพระอาทิตย์ตกกลางทะเล ขากลับพี่เค้าขับพาวนรอบเกาะ ย้ำ! รอบเกาะทั้งเกาะ 1 รอบ ตื่นตาตื่นใจ วิวดี กิจกรรมแน่น คุ้มเกินคุ้ม คุณค่าทางจิตใจล้วนๆ ต้องขอบคุณพี่ใจดี ขับพาออกไปไม่บ่นซักคำ เงินก็ไม่ได้ ปลาก็ไม่ติดเบ็ด กลับมาไม่ทันนกเงือกคู่ออกจากป่ามากินน้ำเลย เนื่องจากเกาะเพิ่งเปิด ระบบนิเวศยังสมบูรณ์ พอค่ำๆ ปูลมตัวเบ้งวิ่งว่อนเต็มหาด พอเดินไปใกล้ๆ วิ่งไวเป็นบ้า คือไม่เคยเห็นปูลมตัวใหญ่โย่งแบบนี้เต็มหาดมาก่อน
เย็นๆ จะมีนกเงือกคู่บินมากินน้ำ ซึ่งเราไม่ทัน อีกกิจกรรมหลังพระอาทิตย์ตกรอย่างทะเล คือเดินดูปูเสฉวน อันนี้จะมีเจ้าหน้าที่ถือโคมไฟพาเราไปเดินดู จะต้องเดินไปฝั่งหลังเกาะยิ่งใกล้เขตป่า จะเจอบ้านปูเสฉวนแปลกๆ พอน้ำลดปะการัง สาหร่ายโผล่ติดหาดทราย ตื่นตาไปอีก ไม่คิดว่าบีชแคมป์ครั้งนี้นอกจากจะได้ความส่วนตัว ยังเจอธรรมชาติแบบที่ไปที่เดียวครบทุกอย่างแบบนี้ ไปดูปูกัน...O.O

ปูเสฉวน

ปูเสฉวน

ปูเสฉวน
จากนั้นเราก็กลับมาทำการย่างทะเลอาหารเย็น จัดปาร์ตี้กันต่อ สำหรับใครมาตัวเปล่า เย็นๆ จะมีเจ้าหน้าที่มารับออเดอร์ค่ะ ส่วนเราหากินกันเอง จ่ายเฉพาะค่าเช่าเตา 400 บาท เพราะตอนติดต่อเต้นท์ที่พัก เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถมาปิ้งย่างที่เกาะได้ แต่ต้องเตรียมของมาเอง มีครัว มีจานชามให้ยืมได้ แต่! คุยรายละเอียดให้ดีเพราะเดี๋ยวจะมีปัญหา เพราะส่วนที่เราพักคือพื้นที่ของบ้านหิรัญพฤกษ์ แต่ครัว พื้นที่นอกรั้วเป็นสัมปทานเป็นของเจ้าอื่น ไม่สามารถใช้ร่วมกันได้มีค่าใช้จ่าย ต้องตกลงกันให้เรียบร้อยก่อนเนอะ
เรายังมีความเตรียมพร้อมบ้างเตรียมทะเล ชามพลาสติกมาจากในเมือง พร้อมน้ำดื่ม ขนม ของแห้ง แต่ระหว่างรอเพื่อนทีท่าเรือ มีความตกหล่นเกิดขึ้น น้ำอัดลมหาย ขนมหาย หมวกหาย น่าจะมีการหยิบผิด หยิบเกิน เพราะนักท่องเที่ยวที่ท่าเรือเยอะ แก็งค์เรามีความบ้าหอบฟาง หอบของลงเรือเยอะมากก ขากลับนี่เบาหวิวเลยทิ้งทุกอย่างไว้ ไม่เก็บกลับ บรรยากาศตามภาพ...

ปูที่ตื่นตี4 แบกหน้าง่วงๆ ไปช็อปที่ตลาดสด

ปูที่ตื่นตี4 แบกหน้าง่วงๆ ไปช็อปที่ตลาดสด

มีความพร๊อพพร้อม แต่เกรงใจเต้นท์ที่ไม่ใช่แก็งค์เรา ก็จะเบาๆ หน่อย
เต้นท์ที่พักเป็นเต็นท์กันน้ำ ไม่ต้องห่วงเรื่องฝนตกแล้วจะรั่ว นอนสบายหลับสนิทตลอดคืน เพราะฝนตกช่วงตี เรายังไม่รู้เรื่องเลย
ข้อแนะนำ: เนื่องจากเป็นเกาะที่ต้องปั่นไฟใช้เอง กระแสไฟที่มีให้ใช้แค่พอยังชีพเท่านั้น ไฟส่องสว่าง ชาร์จแบต พัดลม มีปลั๊กสามตาให้ ใครที่ไปแบบห่วงสวยไดร์ ที่หนีบ ถ้าไม่อยากโดนด่า อย่าเอาไปเพราะจะทำให้ไฟดับทั้งเกาะ แล้วมันร้อนอบอ้าวมาก
เช้าวันรุ่งขึ้น...นัดตื่น 6โมง เพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้น สรุปนาฬิกาไม่ปลุก ตื่นมา 6.30 น. เพราะเหงื่อแฉะหน้า ฝนตกไม่รู้ตัว อากาศเลยอบอ้าว พอตื่นเสร็จปรับรูรับแสงม่านตา เช็ดหน้า ล้างตา ก็ไปดูพระอาทิตย์ขึ้นกันต่อ ไปดูภาพอากาศยามเช้าบนเกาะกันต่อ