Articles health
สุขภาพ

10 เคล็ดลับ กินอยู่ธรรมดา ไม่งดหวาน ทานแป้งได้ ออกกำลังกายน้อย แต่ไม่อ้วน!

อยากกินหวาน ชอบทานแป้ง ออกกำลังกายน้อย ขี้เกียจนับแคล มาดู 10 เคล็ดลับ กินอยู่ธรรมดาได้ แต่ไม่อ้วนกันค่ะ


» » - - - - - » »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 1. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

    • 2. ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ

    • 3. หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก

    • 4. ยึดกฎ 1 ใน 3

    • 5. น้ำเปล่า คือมิตรแท้

    • 6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง

    • 7. ไม่ปล่อยให้ตัวเองอดอาหารจนหิวโซ

    • 8. ไม่งดหวาน ทานแป้งได้ แต่ต้องรู้ลิมิต

    • 9. การพักผ่อนที่เพียงพอคือสิ่งสำคัญ

    • 10. ทำให้ทุกกิจวัตรคือ การออกกำลังกาย


    สวัสดีค่ะ สาวๆ SistaCafe ที่น่ารักทุกคนนนน

    สำหรับเรื่องราวของ สุขภาพ วันนี้ เราไม่ได้มาบอก เมนูลดน้ำหนัก หรือ สอนทำอาหารคลีน แต่อย่างใด แต่เราจะมาบอก 10 เคล็ดลับ การกินอยู่แบบธรรมดา ใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป ไม่ต้องงดขนมหวานของโปรด ไม่ต้องนับแคลอรี่ ทานแป้งได้ และแม้จะออกกำลังกายน้อย ก็ไม่อ้วน!

    ใช่แล้วล่ะค่ะสาวๆ เราสามารถใช้ชีวิตประวันแบบปกติได้อย่างไม่ต้องเคร่งเครียด แต่ต้องมีหลักในการใช้ชีวิตที่ถูกต้อง โดยเฉพาะวิธีการรับประทาน มาดูกันเลยค่ะว่า 10 เคล็ดลับ การกินอยู่แบบธรรมดาที่มีความสุขและไม่ต้องกลัวอ้วน มันเป็นยังไง ^^

    1. ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

    เคล็ดลับข้อแรก เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้กันดีอยู่แล้วค่ะว่า เราต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารให้ครบถ้วน แถมยังทำให้เราได้ทานอาหารที่หลากหลายอีกด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต วิตามิน เกลือแร่และไขมัน

    เพราะฉะนั้น เราจึงไม่จำเป็นต้องงดแป้งหรือของหวาน เพราะร่างกายยังต้องการสารอาหารพวกนี้ในการสร้างพลังงาน เพียงแต่ต้องรู้จักจำกัดปริมาณและเลือกทานคาร์โบไฮเดรตและไขมันที่มีประโยชน์ต่อร่างกายค่ะ

    2. ทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ

    นอกจากต้องทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว เคล็ดลับสำคัญอีก 1 ข้อที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การรับประทานอาหารให้ครบ 3 มื้อ คือ เช้า กลางวัน เย็น เพื่อให้ได้รับสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสมและเพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จะทำให้เราไม่ทานมื้อใดมื้อหนึ่งมากเกินไป ไม่ควรอดมื้อใดมื้อหนึ่ง เพราะร่างกายจะจำว่าเราขาดสารอาหารและจะส่งผลเสียต่อสุขภาพตามมา เช่น อาการโยโย่เอฟเฟกต์ การเกิดเซลลูไลท์ตามผิวหนังจากการที่น้ำหนักไม่คงที่ เป็นต้น

    เราควรรับประทานเป็นมื้อในสัดส่วนปริมาณที่เหมาะสม เพราะจะช่วยลดอาการทานจุกจิก แถมยังทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้เป็นเวลาและมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
    ค่ะ

    3. หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก

    หลายคนคงเคยได้ยินกันมาบ้างแล้วสำหรับเคล็ดลับข้อนี้ โดยปริมาณอาหารในแต่ละมื้อที่เหมาะสมนั้นให้ยึดหลัก หนักเช้า เบาเที่ยง เลี่ยงเย็น เว้นดึก คือทานอาหารเช้าให้เต็มอิ่ม อย่างเช่น ข้าวกับกับข้าว โจ๊ก ข้าวต้ม นม ผัก ผลไม้ หรือพวกเบเกอรี่ต่างๆ อย่างใครชอบทานของหวาน อาจจะเอามาไว้ในมื้อนี้ก็ได้นะคะ ส่วนมื้อกลางวันให้ทานอาหารธรรมดาทั่วไป โดยอาจจะลดปริมาณให้น้อยกว่ามื้อเช้าสักหน่อย มื้อเย็นก็ไม่ควรอด แต่ควรเลี่ยงอาหารที่เป็นแป้ง หรือมีไขมันมาก อาจจะทานเป็นโปรตีนอย่าง ไข่ต้ม นม หรือทานจำพวกสลัด ถ้าอยากทานเป็นข้าวก็ให้เลือกกับข้าวที่เป็นประเภท ต้ม นึ่ง อบ ก็ได้เช่นกันค่ะ

    บางคนที่ทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานไม่ครบสามมื้อ พอตกดึกก็อาจจะเกิดอาการหิวและจะชอบทานมื้อดึก ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำให้อ้วนแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพและนำมาซึ่งโรคต่างๆ อย่างเช่น กรดไหลย้อน ภูมิแพ้ รวมถึงหัวใจทำงานหนักอีกด้วยนะคะ

    4. ยึดกฎ 1 ใน 3

    เวลาทานอาหารให้ยึดกฎ 1 ใน 3 คือให้แบ่งอาหารในหนึ่งจานหรือหนึ่งมื้อเป็น 3 ส่วน โดยให้ทาน โปรตีน 1 ส่วน เน้นเป็นอาหารจำพวกปลา ธัญพืช ถั่วต่างๆ รวมถึง ไข่และนม เนื้อสัตว์สามารถทานได้ปกติ แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกแบบไม่ติดมัน หรืออาจจะทานติดมันเป็นบางครั้งอันนี้ก็ไม่ว่ากันค่ะ เพียงแต่คำนึถึงปริมาณที่เหมาะสม

    ต่อมาเลือกทานคาร์โบไฮเดรต 1 ส่วน เน้นอาหารจำพวกข้าวหรือข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีต ซึ่งเป็นอาหารที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง และสุดท้ายผักผลไม้ 1 ส่วน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เพื่อที่จะช่วยเพิ่มวิตามินและเกลือแร่ให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย ส่วนไขมันให้ทานแต่น้อย เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ

    5. น้ำเปล่า คือมิตรแท้

    อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วค่ะว่า น้ำเปล่า เป็นเครื่องดื่มมหัศจรรย์ที่ดีต่อร่างกายมากที่สุด เนื่องจากภายในร่างกายนั้น เต็มไปด้วยน้ำถึง 60% เราจึงควรดื่มน้ำสะอาดทุกวัน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัวและความต้องการของร่างกาย ถ้าเป็นคนทั่วไป ผู้ชายจะต้องการน้ำเฉลี่ย 1.5-2 ลิตร ต่อวัน ส่วนผู้หญิงจะต้องการน้ำเฉลี่ย 1-1.5 ลิตร ต่อวัน แต่ถ้าหากเป็นนักกีฬาหรือคนที่ออกกำลังกายหนักๆ แล้วร่างกายสูญเสียน้ำมาก อาจจะต้องดื่มน้ำ 2-3 ลิตร ต่อวัน เพื่อให้ร่างกายปรับสมดุลมีน้ำไปหล่อเลี้ยงเซลล์ได้ตลอดเวลา

    นอกจากนั้น ยังช่วยให้ระบบขับถ่ายรวมถึงไตทำงานได้ดี ส่งผลให้สุขภาพร่างกายดี แถมยังทำให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งอีกด้วยค่ะ ถ้าเป็นไปได้ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก พยายามหลีกเลี่ยงการดื่มชา กาแฟและน้ำอัดลม อาจจะดื่มบ้างเป็นบ้างวัน แต่ถ้าใครติดจริงๆ แนะนำให้เลือกดื่มแบบไม่ใส่น้ำตาล หรือแบบหวานน้อยและดื่มแต่น้อย อาจจะวันละ 1 แก้ว ถ้าใครติดหวาน แนะนำให้ลองดื่มน้ำผลไม้สดแทน เพื่อช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนและโรคอื่นๆ ตามมาค่ะ

    6. หลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง

    เคล็ดลับต่อมาคือ ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีโซเดียมสูง อย่างเช่น อาหารหมักดอง อาหารตากแห้ง อาหารแปรรูปจำพวกหมูยอ ไส้กรอก ลูกชิ้น อาหารสำเร็จรูป อย่างบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป อาหารแช่แข็ง รวมถึงซอส เครื่องปรุงรส ซุปก้อน ขนมขบเคี้ยว น้ำผักผลไม้บางชนิด เช่น น้ำมะเขือเทศ ก็มีโซเดียมสูงเช่นกันค่ะ

    การทานอาหารที่มีโซเดียมสูงจะทำให้ตัวบวม เพราะเซลล์ในร่างกายมีความเข้มข้นสูงจะทำให้เซลล์ดูดน้ำมากเพื่อปรับสมดุล นอกจากนั้นการทานอาหารที่มีโซเดียมสูงมากๆ เป็นประจำจะทำให้ ไตเสื่อมและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมามากมายเช่นเดียวกัน
    ค่ะ

    าหารพวกนี้อาจจะมีรสชาติอร่อย แถมยังสะดวกหาทานง่าย แต่ทางที่ดีก็ควรทานแต่น้อย หรือนานๆ ครั้งเพื่อสุขภาพที่ดีนะคะ

    7. ไม่ปล่อยให้ตัวเองอดอาหารจนหิวโซ

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดสุขภาพ)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe