BattleReviewโทนเนอร์vsน้ำเกลือKleanKareตัวไหนดีตัวไหนโดนมาดูกัน
Articles makeup
ความงาม

Battle Review โทนเนอร์ vs. น้ำเกลือ Klean & Kare ตัวไหนดี ตัวไหนโดน มาดูกัน!

โทนเนอร์ กับ น้ำเกลือ ใช้อะไรดีกว่ากัน?


» » - - - » - »
Sistacafe button sharefb
Down

เลือกอ่านตามหัวข้อ

  • [แสดง]
  • [ซ่อน]
    • 1. Klean & Kare normal saline

    • 2. The Face Shop Clean Face Mild Toner

    • 3. Neutrogena Alcohol Free Toner

    • 4. Etude House Wonder Pore Freshner

    • ติดดาว / ให้คะแนนเปรียบเทียบ น้ำเกลือ Klean & Kare VS โทนเนอร์


    สวัสดีค่ะสาว ๆ  SistaCafe ทุกคน ในชีวิตประจำวันของสาว ๆ โดยทั่วไป นอกจากการแต่งหน้าเพื่อเสริมความมั่นใจให้ตัวเองแล้ว กลับบ้านมาเราก็ต้องดูแลผิวเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด และสิ่งที่จะมาทำให้ผิวหน้าของเราสะอาดขึ้นอีกขั้นหนึ่งก่อนที่จะไปบำรุงผิว ก็คือสิ่งที่เรียกว่า
    " โทนเนอร์ " นั่นเองค่ะ แต่...ก็มีสาว ๆ หลายคนที่ประสบปัญหาจากการใช้โทนเนอร์อยู่เหมือนกัน มีการเช็ดแล้วแสบหน้าบ้างล่ะ แพ้แอลกอฮอล์ หรือน้ำหอมจากโทนเนอร์ ทำให้สิวขึ้นบ้างล่ะ...แล้วจะมีโทนเนอร์ตัวไหนนะ ที่เช็ดแล้วมันไม่แสบ ไม่แพ้ และสะอาดหมดจดจริง ๆ ?

    มิ้วบอกตรงนี้เลยว่ามีแน่นอนค่ะ และวันนี้มิ้วก็จะมาทำการ Battle โทนเนอร์ทุกตัวที่มิ้วใช้เอง ตัวไหนปัง ตัวไหนแป้ก ตัวไหนเหมาะกับสภาพผิวแบบไหน เดี๋ยวรู้เลย ถ้าพร้อมแล้วมาชมไปพร้อม ๆ กันเลยค่า ^^

    โทนเนอร์ทั้งหมดที่มิ้วนำมา Battle มีดังนี้ค่ะ
    1. Klean & Kare normal saline หรือน้ำเกลือ Klean & Kare 
    2. The Face Shop Clean Face Mild Toner
    3. Neutrogena Alcohol Free Toner
    4. Etude Hose Wonder Pore Freshener


    ก่อนจะไปทดลองประสิทธิภาพของโทนเนอร์ทุกตัวได้อย่างเต็มขั้น เราต้องทำการแต่งหน้าแบบจัดเต็มกันก่อนนะคะ และนี่ก็คือหน้าที่มิ้วแต่งมาเต็มแล้ว ทั้งรองพื้น แป้ง อายแชโดว์ มาสคาร่า บลัชออน และลิปสติก งานนี้ต้องหน้าแน่นเข้าไว้นะคะ


    โชว์หน้าเต็มกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คราวนี้มิ้วขอไปลบหน้าออกครึ่งนึงก่อนนะคะ 


    และนี่ก็คือหน้าสด หน้าจริง ไม่อิงนิยาย ลบด้วยรีมูฟเวอร์ ตามด้วยการล้างหน้าด้วยโฟมต่อเป็นที่เรียบร้อย


    เดี๋ยวเรามาดูกันเลยว่าแต่ละตัวเช็ดแล้วเป็นยังไงบ้าง?

    1. Klean & Kare normal saline

    เริ่มตัวแรกที่น้ำเกลือของ Klean & Kare เลยค่ะ แปลกใจล่ะสิว่าทำไมถึงมีน้ำเกลือมารวมอยู่ในนี้ด้วย ใครได้ดูรีวิวสกินแคร์บ่อย ๆ จะทราบกันดีค่ะว่าเดี๋ยวนี้หลายคนหันมาใช้น้ำเกลือแทนโทนเนอร์กันเยอะแยะ เพราะเอามาเช็ดหน้าได้สะอาดจริง ๆ เหมาะกับคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย และคนที่มีปัญหาสิว ซึ่ง
    มิ้วก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ น้ำเกลือที่มิ้วใช้เป็นขวดขนาดกลาง ปริมาณ 500 ml. ปกติจะซื้อที่ร้าน Watson ไม่ก็ Boots ราคา 58 บาท ราคาถูกแถมได้เยอะอีกต่างหาก

    อย่างที่บอกไปว่ามิ้วชอบเป็นสิวบ่อย ๆ หลายครั้งมิ้วก็ใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าเพื่อทำความสะอาดผิวหลังจากล้างหน้าด้วยโฟม ผลที่ได้นอกจากจะไม่แสบผิวแล้ว ยังรู้สึกได้ว่ามันสะอาดมาก ที่ดียิ่งกว่านั้นคือสิวหายเร็ว และรอยสิวดูเล็กด้วย เป็นอะไรที่ปลื้มมาก เมื่อใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าแล้วสิวบนใบหน้าหายเร็ว แน่นอนว่าสิวที่หลังก็หายห่วงค่ะ มิ้วจะใช้เจ้าน้ำเกลือของ Klean & Kare เช็ดที่หลังเพื่อรักษาสิวเช่นเดียวกัน

    เห็นขวดใหญ่ขนาดนี้ ใช้กับใบหน้าอย่างเดียวอาจจะไม่หมด เพราะว่าอายุการใช้งานหลังเปิดใช้น้ำเกลือตัวนี้มีแค่ 30 วันเท่านั้นเอง แต่มิ้วคิดว่าควรใช้ให้หมดภายใน 30 วันเลยดีกว่าค่ะ จะได้รับประสิทธิภาพได้สูงสุดและปลอดภัยด้วย ตัวแรกผ่านไปขอบอกว่าดีงามมากค่ะ ทั้งราคา คุณภาพ ผลที่ได้รับ ทุกวันนี้มิ้วใช้เป็นประจำทั้งตอนเช้าและก่อนนอน ก่อนจะทามอยเจอร์ไรเซอร์ ต้องมีติดบ้านเอาไว้เลยทีเดียว

    2. The Face Shop Clean Face Mild Toner

    ตัวที่ 2 เป็นโทนเนอร์สัญชาติเกาหลีจาก The Face Shop ค่ะ Clean Face Mild Toner เป็นโทนเนอร์สูตรรักษาสิว ราคากลางๆ ไม่ได้แพงอะไร มิ้วซื้อมาในราคา 329 บาทจากช็อปของ The Face Shop โดยตรงเลยค่ะ ที่ซื้อตัวนี้เพราะมีช่วงนึงเป็นสิวหนักมาก ( ก็แต่งหน้าตลอดแทบจะทุกวัน สิวก็ขึ้นไม่หยุดหย่อนแบบนี้ล่ะนะ )

    เวลาใช้โทนเนอร์ตัวนี้ สิ่งแรกที่รู้สึกคือกลิ่นหอมละมุนมาก  ไม่ฉุน มีความสดชื่น เหมือนได้กลิ่นพืชนิด ๆ แต่ก็แอบรู้สึกเหมือนกันว่าเขาผสมแอลกอฮอล์มาด้วย เช็ดแล้วรู้สึกว่าสะอาดดี  ไม่มีการระคายเคืองใด ๆ แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องสิวมากนัก ทั้ง ๆ ที่เคลมไว้ว่าเป็นสูตรรักษาสิว รูขุมขนเล็กลงนิดหน่อย ( แต่มิ้วเป็นคนผิวผสมและมีรูขุมขนค่อนข้างกว้างอยู่แล้ว ตรงนี้น่าจะเป็นสิ่งที่แก้ไขค่อนข้างยาก ) แต่ก็โอเคที่เช็ดแล้วไม่แสบหน้าอะไรเลย และสิวไม่ขึ้นไปมากกว่าเดิมค่ะ

    ถ้าให้พูดถึงความประทับใจ ชอบที่สุดก็เรื่องกลิ่นหอมละมุน ๆ นี่แหละไม่ฉุนจนเกินไป แล้วก็ตรงที่เช็ดแล้วไม่แสบหน้า นอกนั้นก็ยังรู้สึกว่าเฉย ๆ ไม่ต่างจากโทนเนอร์ตัวอื่น ๆ มากนัก

    3. Neutrogena Alcohol Free Toner

    ตัวถัดมา แบรนด์ Neutrogena กับโทนเนอร์ขวดสีฟ้าที่สาว ๆ หลายคนน่าจะคุ้นเคยกันดี มิ้วซื้อที่ร้าน Watson ใกล้บ้าน ราคา 186 บาทค่ะ  ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เหมาะกับคนผิวแพ้ง่ายสุด ๆ ค่ะ

    จากการใช้โทนเนอร์ตัวนี้ สิ่งแรกที่มิ้วรู้สึกคือมันให้ความชุ่มชื้นดีมาก เช็ดแล้วไม่รู้สึกแห้งตึง ไม่มีอาการแสบหน้าหรือระคายเคืองใด ๆ สะอาดดี มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ แต่ไม่ช่วยเรื่องสิวและการกระชับรูขุมขนสักเท่าไหร่  เหมือนเอามาเช็ดเพื่อเน้นความสะอาด เตรียมผิวในขั้นตอนต่อไปมากกว่า ไม่รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปมากนัก

    ความรู้สึกสำหรับโทนเนอร์ตัวนี้ บอกเลยว่ารู้สึกเฉย ๆ ใช้แล้วไม่ได้เกิดอาการแพ้ใด ๆ  แต่ก็ไม่เห็นการเปลียนแปลงใด ๆ ด้วยเช่นกัน แอบรู้สึกว่ามันยังไม่ตอบโจทย์ตรงที่มันมีส่วนผสมของน้ำหอม ซึ่งไม่น่าจะเหมาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่าย เพราะเสี่ยงที่จะแพ้น้ำหอมได้เหมือนกัน

    4. Etude House Wonder Pore Freshner

    บทความที่เกี่ยวข้อง
    Content quotation bg
    Disclaimer : บทความนี้เป็นบทความประชาสัมพันธ์ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดยเจ้าของผลิตภัณฑ์
    หากมีข้อสงสัย กรุณาติดต่อทีมงานมาที่ [email protected]
    Content quotation bg


    ดาวน์โหลดแอพ
    ดาวน์โหลดแอพดาวน์โหลดแอพ
    Icon ranking

    อันดับบทความประจำวัน

    (หมวดความงาม)

    Variety By SistaCafe

    Icon feature 100x100

    Feature

    กิจกรรม SistaCafe