รีวิวเที่ยว ' เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ ' ย้อนรำลึกไปในสมัยพระพุทธเจ้าหลวง...

สวัสดีชาว SistaCafe ทุกคน
เรา " มิ้ว " เอง มิ้วคนเดิม เพิ่มเติมคือไปเที่ยวมา นานแล้วนะคะที่มิ้วไม่ได้รีวิวเรื่องเที่ยวให้ได้ชมกัน เนื่องจากช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ไปเที่ยวไหนเลย แต่เมื่อไม่นานมานี้ก็ได้ฤกษ์ยามงามดี ได้ไปเที่ยวกับเขาสักที จุดหมายปลายทางของมิ้วในครั้งนี้อยู่ที่ " เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ " ที่จังหวัดกาญจนบุรีค่ะ
การไปเที่ยวในครั้งนี้จะเป็นยังไง มาติดตามชมกันได้ ณ บัดนี้เลยเจ้าค่ะ ^^

เนื่องจากวางแผนกับเพื่อนมาตั้งแต่ก่อนออกเดินทางว่าเราจะไปที่ " เมืองมัลลิกา " กันเป็นที่แรกก่อนที่จะเข้าที่พัก ดังนั้นเมื่อเดินทางมาถึงสถานีขนส่งกาญจนบุรี มิ้วกับเพื่อน ๆ ก็นั่งรถเมล์แดงเพื่อมายังที่หมายทันที รถเมล์แดงคันนี้จะขับไปปราสาทเมืองสิงห์ค่ะ ระหว่างทางจะผ่านเมืองมัลลิกาพอดี ต้องบอกคนเก็บตังค์ว่าจะไปเมืองมัลลิกาค่ะ เขาจะได้แวะจอดรถให้ ( ใครไม่รู้จักปราสาทเมืองสิงห์ ไปย้อนดูละครช่อง 3 เรื่องนาคีค่ะ "เทวาลัย" สถานที่ในละครที่นางเอกต้องไปบ่อย ๆ นั่นแหละค่ะ ที่เดียวกัน )
เมื่อมาถึงเมืองมัลลิกาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สิ่งแรกที่ทำคือจ่ายค่าเข้าชมค่ะ จากนั้นก็ไปเปลี่ยนชุด อย่างที่ทราบกันดีว่าจุดเด่นของเมืองมัลลิกาคือเขาจะมีชุดไทยให้เราเช่าใส่กันทั้งของชายและหญิง เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศที่จำลองขึ้นให้เหมือนกับสมัยรัชกาลที่ 5 มีชุดให้เช่าหลายแบบ ทั้งแบบลำลองในลักษณะที่ผู้หญิงนุ่งโจง ห่มสไบเรียบ ๆ ผู้ชายใส่เสื้อตัวโคร่ง ๆ และนุ่งโจง รวมถึงชุดแบบพิธีการที่ผู้ชายใส่ชุดราชปะแตน และผู้หญิงใส่เสื้อแขนหมูแฮมค่ะ ( นึกถึงเสื้อผ้าในละครเรื่องสี่แผ่นดิน หรือเรื่องที่มีเนื้อหาเป็นช่วงเวลาในสมัยรัชกาลที่ 5 นั่นแหละค่ะ ) ซึ่งชุดแบบพิธีการนี้ก็จะมีราคาเช่าชุดที่แพงขึ้นมาอีก

แน่นอนว่าสายวินเทจย้อนยุคแบบมิ้วก็ไม่พลาดค่ะ มีหรือที่คนอย่างมินนี่มิ้วจะไม่ใส่ชุดไทย งานนี้มิ้วอยากดูย้อนยุคแบบเรียลให้มากที่สุด แบบที่ใส่แล้วดูไม่ค่อยขัดตานัก มิ้วจึงเลือกใส่สไบสีครีมและนุ่งโจงแดงค่ะ ( จริง ๆ แล้วมิ้วอยากใส่สีน้ำตาล อยากดูธรรมดามากที่สุด ) ส่วนเครื่องประดับที่เขาให้มา มิ้วเลือกใส่เพียงบางชิ้นค่ะ เช่นเข็มขัด และกำไลข้อมือ ไม่ใส่สร้อยคอและต่างหูค่ะ เพราะมิ้วว่ามันจะดูเยอะไป
นี่คือมุมหนึ่งที่ถ่ายรูปออกมาแล้วเห็นชุดที่ใส่ได้ชัดเจนค่ะ อยู่บนรถลากหน้ากำแพงเมือง เป็นการจำลองวิถีชีวิตคนสมัยนั้นได้ดีเลยทีเดียว

ในส่วนแรก ๆ ที่เดินเข้ามา เราจะพบตัวเมืองหรือตลาด อาคารส่วนใหญ่ในบริเวณนี้จะเป็นอาคารก่ออิฐค่ะ เพราะในยุคนั้นเริ่มมีการให้กรรมสิทธิ์ที่ดิน เกิดย่านตลาดซึ่งกลายเป็นศูนย์กลางชุมชน มีการทำเรือนพื้นติดดินเป็นแถว ๆ หรือที่เราเรียกกันว่าห้องแถวนี่แหละ ( อาคารแบบนี้ส่วนมากจะเป็นนิยมในหมู่ชาวจีน เดี๋ยวนี้ก็มีให้เห็นกันอยู่ ) โดยเปิดหน้าร้านสำหรับขายของ ด้านบนหรือหลังบ้านใช้เป็นที่พักอาศัยค่ะ
และนี่ก็เป็นมุมหนึ่งที่มาจากห้องแถวค่ะ ลืมบอกไปว่าที่นี่มีมุมให้ถ่ายรูปสวย ๆ เยอะมาก

นี่ก็เป็นซอกหลืบระหว่างช่องตึกค่ะ ที่มิ้วนึกไม่ถึงว่าตากล้องจะให้มาโพสท่าถ่ายรูปตรงนี้ ( ช่างคิดได้ = =" ) แต่ก็ได้ภาพสวยถูกใจมากเลยทีเดียว ><

มาถึงตลาดทั้งทีก็ต้องมีการจับจ่ายใช้สอยกันหน่อยสิ แต่มาเมืองย้อนยุคทั้งที จะให้ซื้อของด้วยธนบัตรหรือเหรียญแบบสมัยนี้ก็อาจจะดูแปลก ๆ อยู่สักหน่อย ถ้าหากว่าอยากจะช้อปปิ้งซื้อของกินของใช้ในเมืองมัลลิกา ต้องใช้เหรียญสตางค์รูค่ะ ซึ่งมิ้วก็แลกมา 200 บาทสำหรับการซื้อของกินภายในเมืองตลอดช่วงบ่ายค่ะ
เราจะได้เหรียญมาเป็นพวง ๆ แบบนี้ 1 พวงก็เท่ากับ 100 บาทในปัจจุบันค่ะ เหรียญแต่ละเหรียญจะมีมูลค่าและขนาดต่างกัน เวลาไปซื้อของอะไร พนักงานในนั้นก็จะพูดคำลงท้ายแบบโบราณว่า " ขอรับ/เจ้าค่ะ " ซึ่งเข้ากับบรรยากาศจริงจริ๊งงง


ตอนที่เข้ามาในเมืองแล้ว ด้วยความที่ยังไม่ได้กินข้าวกลางวันมา มิ้วเลยจัดไปหลายอย่างเลยค่ะ ทั้งของคาวและของหวาน อร่อยแทบทุกอย่าง อาจจะถ่ายมาไม่หมดนะคะ แหะ ๆ
เริ่มด้วยหมูทอดค่ะ จำไม่ได้ว่ามีเรียกเต็ม ๆ ว่าอะไร แต่มันมีรสออกหวาน ๆ อร่อยดีค่ะ ขายเป็นกระทงๆ

หมูสะเต๊ะ เมนูนี้มีมานานแล้ว น่ากินมาก ๆ เป็นสิ่งแรกที่เตะตามากตอนเดินเข้ามาในย่านตลาด

ขนมหวานที่เป็นขนมไทย ๆ มีขายอยู่หลายอย่างมาก ( แต่ไม่ได้ซื้อกินทุกอย่าง และไม่ได้ถ่ายรูปมาหมดทุกอย่าง ) แต่ที่มิ้วชอบก็พวกทองหยิบ ฝอยทอง เม็ดขนุน ที่ถึงแม้จะหาซื้อได้ทั่วไปในกรุงเทพฯ แต่จากที่ได้กินของที่นี่แล้วรู้สึกได้ถึงความแตกต่างอย่างสิ้นเชิง มันมีรสชาติหวานมากแต่มีความหอมนวล ๆ กินแล้วรู้สึกฟินมากค่ะ ซึ่งจริง ๆ มิ้วก็ไม่รู้หรอกนะว่ารสชาติที่คนโบราณกินกันมันเป็นยังไง แต่น่าจะอารมณ์ประมาณนี้แหละค่ะ อร่อยกว่าที่เคยที่มาทุกที่เลย

เมื่อเดินลึกเข้ามา จะมีสะพานให้เดินข้าม เห็นเรือนไทยอยู่ประมาณ 2-3 หลังค่ะ มิ้วขึ้นเรือนหลังที่ใกล้ที่สุดที่อยู่ตรงศาลาตรงข้ามสะพานที่เดินข้ามมา รูปนี้คือตอนที่นั่งถ่ายรูปที่ศาลาค่ะ จะเห็นนางแบบอีกคนหนึ่งเพิ่มเข้ามา เพื่อนมิ้วเองค่ะ เนื่องจากนางใส่เครื่องประดับจัดเต็มกว่ามิ้ว พอจะถ่ายรูปด้วยกันเลยจัดฉากให้มิ้วเป็นบ่าวที่กำลังนวดให้คุณนายอยู่ ( มีความแอบกลั้นขำกันหนักมาก 55555 )
❤ อย่าลืมไลค์และแชร์บทความให้กำลังใจเราด้วยนะคะ ❤

อันดับบทความประจำวัน
(หมวดท่องเที่ยว/คาเฟ่)
Variety By SistaCafe

Feature
กิจกรรม SistaCafe